ตำรวจจับขบวนการค้ายาเสพติด ค้นโกดังที่ปทุมธานี พบยาบ้า 8 ล้านเม็ด

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี หลังพบเป็นจุดพักยาเสพติดจุดสำคัญของพื้นที่ภาคกลาง การตรวจค้นสามารถจับผู้ต้องหาได้ 7 คน พร้อมยึดของกลางเป็นยาบ้ามากถึง 8 ล้านเม็ด

ภัยอันตรายที่เกิดขึ้นจากยาเสพติดมีให้เห็นเป็นประจำ โดยล่าสุดเกิดขึ้นที่จังหวัดปทุมธานี ที่ผู้เสพไปก่อคดีฆ่าผู้อื่นทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกันมาก่อน เสียชีวิตถึง 2 ราย

ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ปส.3 สะกดรอยติดตามกลุ่มผู้ลำเลียงยาเสพติด มาจาก อ.เชียงคำ จังหวัดพะเยา หลังสืบทราบว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ค้านำยาล็อตใหญ่เข้ามายังพื้นที่ภาคกลาง ตำรวจ ปส.3 เข้าจับกุม นายกฤษกร อายุ 39 ปี ซึ่งขับรถมาจอดรอพรรคพวกได้คนแรก

และได้ติดตามจับ นายเอกรัฐ อายุ 39 ปี, น.ส.สุลีพร, น.ส.ฐิตินันท์, นายศราวุธ, นายเอก และนายณัฐพล รวมทั้งหมด 7 คน โดยใช้รถยนต์จำนวน 4 คัน โทรศัพท์ 10 เครื่อง ในการลำเลียงยาเสพติด ซึ่งทั้งหมดได้นำยาเสพติดมาซุกซ่อนไว้ที่โกดัง ที่เช่าไว้พักยา ใน อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี

โดยตำรวจได้เข้าตรวจค้นภายในรถยนต์ และโกดัง ซึ่งตั้งอยู่ห่างไกลชุมชน พบของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 8 ล้านเม็ด โดยผู้ต้องหา 4 คน ให้การว่าเพิ่งพ้นโทษในคดีจำหน่ายยาเสพติดออกมา และครั้งนี้เพิ่งมารับงานลำเลียงยาเสพติดครั้งแรก

พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า เครือข่ายนี้เป็นกลุ่มของนายโล่ง แซ่ลี ที่ถูกออกหมายจับตั้งแต่ปี 2558 แล้วหลบหนีไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังเป็นนายทุนส่งยาเสพติดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ผู้ต้องหาจะให้การว่าทำครั้งแรกแต่ตำรวจมีข้อมูล จากการเฝ้าพฤติกรรมมาหลายเดือนแล้ว

โดยโกดังที่อ้างว่าเช่าเพื่อกิจการขายของเก่า และเช่ามาเป็นเวลา 1 ปี พื้นที่ 8 ไร่ ทำให้เชื่อได้ว่า มีการลำเลียงยาเสพติดมาแล้วหลายครั้ง

ส่วนสาเหตุจับยาเสพติดได้ครั้งละมาก ๆ แต่ยาเสพติดก็ยังระบาดเพิ่มมากขึ้น ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า เป็นเพราะกลุ่มนายทุนที่ถูกออกหมายจับ ไปอาศัยอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน และส่งยาเสพติดเข้ามาจำนวนมหาศาล โดยจ้างเครือข่ายลำเลียง แม้ถูกจับก็ไม่เกรงกลัว เจ้าหน้าที่จึงต้องเปลี่ยนไปใช้มาตรการยึดทรัพย์ผู้รับฟอกเงินควบคู่ไปด้วย