สังคม

ตั้งกรรมการพิสูจน์ข้อเท็จจริงการอพยพกลับใจแผ่นดิน ตรวจสอบการดำเนินคดีชาวบางกลอย

โดย passamon_a

10 มี.ค. 2564

16 views

วันที่ 9 มี.ค. เรื่องการแก้ปัญหากลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงบ้านบางกลอย ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เพชรบุรี ยังมีความเคลื่อนไหวต่อเนื่อง วันนี้ได้มีข้อสรุปให้ตั้งคณะกรรมการพิสูจน์ข้อเท็จจริงการอพยพไปใจแผ่นดิน และตรวจสอบการดำเนินคดีชาวบางกลอย 30 คน ตามที่ขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ ยื่นข้อเรียกร้อง 7 ข้อ และพบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในหลายเรื่อง ขณะที่ชาวบางกลอยยอมรับว่าหมดหวัง


การประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาบางกลอย ที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นัดหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มารับฟังปัญหาของชาวบางกลอย ที่นำเสนอผ่านขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือพีมูฟ ซึ่งเสนอ 7 ข้อ


ให้สั่งการ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ฯ ทบทวนท่าทีในการแก้ปัญหา ไม่วางตัวเป็นคู่ขัดแย้งและปฏิปักษ์กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน ยุติการบิดเบือนข้อเท็จจริง ทำให้เกิดความเกลียดชังต่อกลุ่มชาติพันธุ์ ขอให้ยุติและเพิกถอนการดำเนินคดีกับชาวบ้านทั้ง 30 ราย ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากความล้มเหลวในการถูกบังคับให้อพยพกับพื้นที่ชุมชนเดิมมามากกว่า 20 ปี และการดำเนินคดีที่มิชอบ เช่นขั้นตอนการออกหมายจับ ปฏิบัติการจับกุม การกีดกันไม่ให้พบญาติ พรากเด็กหรือผู้เยาว์ไปจากผู้ปกครอง กีดกันไม่ให้พบทนายความ การบังคับจับกุม ใส่สายรัดข้อมือ และตรวจดีเอ็นเอ เจาะเลือดชาวบ้าน ซึ่งละเมิดสิทธิมนุษยชน


โดยขอให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงยุทธการพิทักษ์ป่าต้นน้ำเพชร สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการ ออกจากอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ขอให้ยึดถือเอ็มโอยู เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ให้คณะทำงานลงพื้นที่อย่างอิสระ และให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการอพยพกลับใจแผ่นดิน ซึ่งที่ประชุมตกลงในข้อนี้ ที่จะนำไปสู่การตรวจสอบสิทธิการอยู่อาศัยที่ใจแผ่นดินด้วย เนื่องจากในที่ประชุมมีการนำแผนที่ดาวเทียมที่พบร่องรอยการทำกินก่อนประกาศเขตอุทยานในปี 2524 รวมทั้งจะมีการตรวจสอบการดำเนินคดีด้วย


ร้อยเอกธรรมนัส เปิดเผยว่า ที่ประชุมจะพิจารณาข้อเสนอแต่ละข้ออีกครั้ง แต่เบื้องต้นจะตรวจสอบกรณีที่ชาวบ้านร้องเรียนการใช้ความรุนแรง ที่ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ ยืนยันว่าไม่มี ทำให้ข้อเท็จจริงยังแตกต่างกัน


ขณะที่ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการะทรวงทรัพย์ ชี้แจงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า เจ้าหน้าปฏิบัติตามกฎหมายไม่ได้ใช้ความรุนแรง ซึ่งมีการบันทึกภาพเป็นหลักฐานทุกขั้นตอน หากพบเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรง ก็จะดำเนินการทางวินัย ซึ่งปัญหาบางกลอยไม่ใช่เรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน แต่เป็นการแก้ปัญหาตามกฎหมาย ซึ่งปัจจุบันบ้านโป่งลึก-บางกลอย มีประชากรเพิ่มขึ้น 116 ครอบครัว รวม 672 คน มีพื้นที่เกษตรและที่อยู่อาศัยรวมกว่า 700 ไร่ และมีการพัฒนาเพื่อไม่ให้บุกรุกป่า โดยนายวราวุธ นำคลิปภาพปฏิบัติการจับกุมมายืนยันด้วย


นางกิ๊ป ต้นน้ำเพชร หนึ่งในชาวบางกลอยที่ถูกดำเนินคดีและนำฝากขังในเรือนจำ 2 วัน ยืนยันว่า ในระหว่างการจับกุมมีการใช้ความรุนแรง เช่นการกระชาก การใช้สายรัดมือไพล่หลังขณะขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งชาวบ้านกลัว แต่ชาวบ้านไม่มีภาพมายืนยันได้เพราะถูกยึดโทรศัพท์ และไม่มีคนกลางที่เชื่อถือได้ไปร่วมติดตามการจับกุมเลย ซึ่งชาวบ้านยืนยันข้อเท็จจริงได้ และวันนี้นางกิ๊ป ได้เข้าร่วมประชุม แต่ออกจากห้องด้วยน้ำตา เพราะหมดหวัง ที่การกลับไปทำกินในบ้านเกิดกลับทำให้ถูกจับกุม ซึ่งเธอเห็นว่าหากทำไม่ได้ก็ฆ่าให้ตายดีกว่าเอาไปขังคุก


ชาวบ้านบางกลอย ยังร่วมชุมนุมกับกลุ่มพีมูฟ ที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ขณะที่นายประยงค์ เปิดเผยด้วยว่า นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ ได้โทรศัพท์มาพูดคุยหลังการประชุม ยืนยันว่าจะมีการแก้ปัญหาร่วมกัน ถือเป็นท่าทีที่ดีขึ้น 

คุณอาจสนใจ

Related News