พระราชสำนัก
ในหลวง พระราชินี ทรงสมโภชสมเด็จองค์ปฐมวัดเทพประทาน จ.จันทบุรี
โดย panisa_p
5 มี.ค. 2568
172 views
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงประกอบพิธีสมโภชพระสมเด็จองค์ปฐม "พระพุทธเมตตา" ณ วัดเทพประทาน อธิพร จังหวัดจันทบุรี
วานนี้ (4 มี.ค. 68) เวลา 16.54 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินถึงยัง สนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว หน้าที่ว่าการอำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดเทพประทาน (อธิพร) ตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
เวลา 17.17 น. เสด็จพระราชดำเนินถึงวัดเทพประทาน (อธิพร) มีพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดสร้าง พระสมเด็จองค์ปฐม "พระพุทธเมตตา" พร้อมด้วย คณะกรรมการ ฯ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
จากนั้น ทรงประกอบพิธีสมโภชพระสมเด็จองค์ปฐม "พระพุทธเมตตา" โดยพระอาจารย์ธาตุ อธิปัญโญ เจ้าอาวาสวัดเทพประทาน (อธิพร) เป็นผู้ริเริ่มโครงการ ฯ ได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงมหาดไทย กองทัพอากาศ กรมประชาสัมพันธ์ ตลอดจนพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมใจกันจัดสร้างขึ้น เพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 และเพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา ปกป้องคุ้มครองประเทศชาติ ให้เกิดความสันติสุข ตลอดจนเป็นอนุสรณ์สถิตคู่ กับอาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์
โดยเป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย ที่กรมศิลปากรเป็นผู้จัดปั้น ประดิษฐานอยู่บริเวณดาดฟ้าอาคารองค์พระ มีขนาดหน้าตัก 29 เมตร สูง 45 เมตร เท่ากับความสูงของอาคาร 15 ชั้น สร้างด้วยวัตถุธาตุล้ำค่าทั้งองค์ อาทิ นิลรัตนะ , สะเก็ดดาว หรือ อุลกมณี (อัญมณีศักดิ์สิทธิ์) , ไข่มุกราตรี และกาบหอยมุก นับเป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในขณะนี้ที่มีขนาดใหญ่ และสร้างด้วยนิลรัตนะ ถึง 2 พันตัน อีกทั้งประดับตกแต่งผิวองค์พระด้วยพลอยรัตนะ จำนวน 500 ตัน ทำให้มีความสวยงาม เวลากลางวัน องค์พระจะเป็นสีดำประกายชมพู ส่วนกลางคืน จะเป็นสีชมพูอมแดง ส่วนพื้นปูด้วยหินอ่อนขาว เช่นเดียวกับที่พระมหาเจดีย์ชเวดากอง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และพุทธคยา สาธารณรัฐอินเดีย สามารถเดินด้วยเท้าเปล่าได้ ท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนจัด
ใช้เวลาในการจัดสร้าง 12 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2554 แล้วเสร็จปี 2566 คณะกรรมการจัดสร้าง ฯ ได้เชิญตราสัญลักษณ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม พุทธศักราช 2554 ประดับบนผ้าทิพย์พระสมเด็จองค์ปฐม เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนในภาคตะวันออก และเทิดทูนสถาบันชาติศาสนา และพระมหากษัตริย์ ทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ และเผยแผ่ ประติมากรรมพุทธศิลป์ พร้อมทั้งเป็นพลังที่จะคุ้มครองประเทศชาติ กับ ถวายเป็นพุทธบูชาให้เป็นสมบัติของพุทธศาสนิกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศสืบไป
โครงการจัดสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม "พระพุทธเมตตา" เริ่มจัดสร้างตั้งแต่ปี 2554 โดยพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ เสด็จไปทรงวางศิลาฤกษ์ เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554
สำหรับ "อาคารองค์พระ" เป็นอาคารทรงกลม ชั้นที่ 1 ประดิษฐานพระสมเด็จองค์ปฐม (จำลอง) ปางจักรพรรดิ แกะสลักจากหยกพม่า หนัก 3 ตัน และประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระผนวช จัดทำด้วยกระจกเทมเปอร์ สามารถมองทะลุเห็นทั้งด้านหน้าด้านหลัง , บริเวณผนัง มีภาพการสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม "พระพุทธเมตตา" , บอร์ดประวัติวัด ฯ และภาพใบโพธิ์สีทองบนเสา เป็น guide map บอกว่าในอาคารนี้มีอะไร
ชั้นที่ 2 ประดิษฐานพระสมเด็จองค์ปฐม (จำลอง) ปางชนะมาร ทำด้วยโลหะรมดำ หนัก 1 ตัน มีนิทรรศการก่อสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม "พระพุทธเมตตา" ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา รวมทั้งตัวอย่างวัตถุธาตุอันล้ำค่า ที่นำมาจัดสร้างอย่างประณีตทุกขั้นตอน
ทั้งนี้มีการมอบหนังสือ "พลังแห่งศรัทธา" ที่เล่าเรื่องด้วยภาพเกี่ยวกับการก่อสร้างพระสมเด็จองค์ปฐม "พระพุทธเมตตา" เป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ไปร่วมในพิธีครั้งนี้ด้วย
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ มูลนิธิกาญจนบารมี ร่วมกับ หน่วยแพทย์ พอ.สว. จังหวัดจันทบุรี และกองแพทย์หลวง นำหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านม โดยใช้เครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ไปตรวจรักษาแก่สตรีกลุ่มเสี่ยง รวมทั้งตรวจรักษาโรคทั่วไปแก่ประชาชน