พระราชสำนัก
ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ ไปในพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
โดย panisa_p
27 ม.ค. 2568
150 views
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่จังหวัดเชียงใหม่
เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2568 เวลา 17 นาฬิกา 14 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินถึงยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 , แม่ทัพภาคที่ 3 , ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 , ผู้บังคับการ และรองผู้บังคับการกองบิน 41 พร้อมข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ทรงรับการถวายความเคารพ จากกองทหารเกียรติยศ
ก่อนประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีพสกนิกรชาวเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมใจกันใส่เสื้อสีเหลือง ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ นอกจากนี้มีสตรีชาวเหนือ 900 คน ฟ้อนเทียน และฟ้อนเล็บ ซึ่งเป็นวัฒนธรรม และประเพณีโบราณ ของชาวล้านนา ที่มีความอ่อนช้อย งดงาม เพื่อถวายพระเกียรติตลอดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินผ่าน
เวลา 17 นาฬิกา 52 นาที เสด็จพระราชดำเนินถึงยังลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ในการนี้ ทรงวาง พุ่มดอกไม้ ทรงวางพวงมาลัย ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ ซึ่งเป็นพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทย 3 พระองค์ ผู้สร้างเมืองนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ คือ พญามังราย พญางำเมือง และพ่อขุนรามคำแหง ก่อนทรงร่วมในพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับมูลนิธินวราชดำริอนุรักษ์ฝ่ายเหนือ , เจ้านายฝ่ายเหนือ และพสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ จัดขึ้น ตามประเพณี วัฒนธรรมของชาวล้านนา ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดี
ทั้งนี้ตามคติของชาวล้านนาเชื่อว่า ในร่างกายของมนุษย์ประกอบขึ้นจากธาตุทั้ง 4 และมีขวัญ 32 ขวัญ โดยขวัญ เป็นเหมือนสิ่งที่คอยกำหนดชีวิต จิตใจ และความเป็นอยู่ หากขวัญอยู่ในร่างกายครบถ้วน ก็จะมีสุขภาพแข็งแรง จิตใจแจ่มใส แต่ถ้าขวัญอ่อน หรือขวัญหาย ก็จะเจ็บป่วย "การสู่ขวัญ" จึงเป็นพิธีกรรมที่สำคัญของชาวล้านนา เพื่อเรียกขวัญให้กลับคืนสู่ร่างกาย หรือเสริมสร้างขวัญให้แข็งแรง และเป็นสิริมงคล ซึ่งจะทำเมื่อเจ็บป่วย เดินทางกลับจากแดนไกล หรือวาระอันเป็นมงคล อาทิ วันเกิด วันแต่งงาน
ในการนี้ ทอดพระเนตรริ้วขบวนฟ้อนเชิญบายศรีทูลพระขวัญ พร้อมเครื่องราชสักการะ และพุ่มดอกไม้ของเจ้านายฝ่ายเหนือ ประกอบด้วย กังสดาล , วงกลองชุม , ขบวนตุงช่อ 10 คู่ , ฟ้อนเจ้านายฝ่ายเหนือ ฝ่ายชาย 5 คู่ นำหน้าพานพระขวัญและบายศรีต้น แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว , ฟ้อนเจ้านายฝ่ายเหนือ ฝ่ายหญิง 8 คู่ นำหน้าพานพระขวัญและบายศรีต้น แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี , ขบวนหัวหมู-เครื่องคาว-เครื่องหวาน , ขบวนเครื่องสักการะล้านนา 5 คู่ , ขบวนพานพุ่มดอกไม้ 5 สกุล ได้แก่ สกุล ณ เชียงใหม่ , ณ ลำพูน , ณ ลำปาง , ณ น่าน และ ณ เชียงตุง
จากคติความเชื่อเรื่อง "การสู่ขวัญ" พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้จัดพิธีบายศรีทูลพระขวัญขึ้น ถวายพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี ครั้งเสด็จเลียบมณฑลพายัพ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2469 ณ พลับพลา หน้าศาลากลางมณฑลพายัพ หรือบริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ในปัจจุบัน
ต่อมาเจ้านายฝ่ายเหนือได้ร่วมกันจัดพิธีบายศรีทูลพระขวัญขึ้น ตามแบบแผนที่พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กำหนดไว้ เพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ครั้งเสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2501 ณ พลับพลา โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ให้จัดพิธีบายศรีทูลพระขวัญ ถวายสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี , พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขณะทรงดำรงพระอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร และพระบรมวงศ์ รวมทั้งพระราชอาคันตุกะอีกหลายวาระ
เมื่อผู้เชิญบายศรีทูลพระขวัญ พร้อมเครื่องราชสักการะและพุ่มดอกไม้ เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้ว เจ้าศรีรัตน์ ณ ลำปาง ร่ายนำคำทูลพระขวัญ เป็นทำนองของเจ้านายฝ่ายเหนือ ที่เคยปฏิบัติถวายมาแต่ในอดีต นายสนั่น ธรรมธิ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและล้านนาสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขับลำนำทูลเชิญพระขวัญ จบแล้วเจ้าวงศ์สักก์ ณ เชียงใหม่ ผูกข้อพระหัตถ์ขวาและซ้ายแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศล ตามพระราชอัธยาศัย กับทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือ "เจ้าหลวงเชียงใหม่" และเจ้าวรเทวี ณ ลำพูน ผูกข้อพระหัตถ์ขวาและซ้าย แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายหนังสือ "เจ้าหลวงลำพูน"
ในการนี้ ทอดพระเนตรการแสดง แสง สี เสียง อิงประวัติศาสตร์ ชุด "เฉลิมรัชทศมราชา บรมราชจักรีวงศ์" โดยเด็กและเยาวชน 155 คน แบ่งเป็น 4 องก์ ได้แก่ องก์ที่ 1 ปฐมพงศ์วงศ์พิงคนคร , องก์ที่ 2 สานสัมพันธ์ไมตรีทิพย์จักรจักรีวงศ์ , องก์ที่ 3 สายใยรักสองแผ่นดิน และองก์ที่ 4 ร่มฟ้าบารมีทศมราชา บรมราชจักรีวงศ์
โดยพิธีบายศรีทูลพระขวัญ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เป็นการจัดขึ้นครั้งแรกในรัชกาล เพื่อความเป็นสิริมงคล และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดต่าง ๆ ในภาคเหนือ ซึ่งที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎร รวมทั้งทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่ภาคเหนือมาโดยตลอด จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร