พระราชสำนัก
ในหลวง-พระราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปถวายสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่ จ.เชียงใหม่
โดย panisa_p
6 ม.ค. 2568
83 views
วานนี้ (5 มกราคม 2568) เวลา 17 นาฬิกา 4 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินถึงยังท่าอากาศยานทหาร กองบิน 41 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ , อธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 , แม่ทัพภาคที่ 3 , ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมข้าราชการ และประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
เวลา 17 นาฬิกา 44 นาที เสด็จพระราชดำเนินถึงยังพระวิหารหลวง วัดพระสิงห์ ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพัดรองที่ระลึกตราสัญลักษณ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ที่โต๊ะหมู่หน้าพระประธานประจำพระวิหารหลวง แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ บูชาพระพุทธศรีสรรเพชญ หรือพระเจ้าตนหลวง พระประธานปางมารวิชัย ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเขตกำแพงเมืองเชียงใหม่
จากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังพระวิหารลายคำ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่ง บูชาพระพุทธสิหิงค์จำลอง ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเททองหล่อ และพระราชทานแก่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อปี 2512 โดยเป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ หล่อสำริดลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย ประทับนั่งขัดสมาธิเพชร
แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปยังพระมหาธาตุเจดีย์ พระมหาธาตุประจำปีพระบรมราชสมภพ ปีนักษัตรมะโรง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในการนี้ทรงชักสายสูตรห่มผ้าที่องค์พระมหาธาตุเจดีย์ บนผืนผ้าประดับตราสัญลักษณ์พระปรมาภิไธยย่อ วปร. และตราสัญลักษณ์พระนามาภิไธยย่อ สท.
แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย สักการะพระเกศาธาตุ ที่บรรจุอยู่ภายในองค์พระมหาธาตุเจดีย์ ปูชนียสถานสำคัญ ซึ่งพญาผายู หรือพระเจ้าผายู ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้น เดิมเป็นเจดีย์ทรงระฆังสีขาว ต่อมาพระราชชายาเจ้าดารารัศมี เจ้าแก้วนวรัฐ ครูบาศรีวิชัย และพุทธศาสนิกชน ได้ร่วมบูรณะปฏิสังขรณ์ ปัจจุบันเป็นเจดีย์ทรงระฆังสีทองอร่าม
ต่อจากนั้น ทรงพระดำเนินจากลานพระมหาธาตุเจดีย์ไปยังพระวิหารหลวง ระหว่างเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินผ่าน ตกแต่งด้วยเครื่องสักการะบูชา หรือ "ขันดอก" บรรจุข้าวตอก ดอกไม้ ธูป เทียน ตัวขันสร้างจากโลหะ หรือไม้ ตกแต่งด้วยงานลงรัก ปิดทอง ประดับกระจก อันเป็นงานหัตถศิลป์พื้นเมืองของล้านนา นอกจากนี้นักศึกษา วิทยาลัยนาฏศิลป์เชียงใหม่ ได้ฟ้อนเล็บ ประกอบวงกลองตึ่งโนง ถวายพุทธบูชา
เมื่อเสด็จเข้าพระวิหารหลวง ทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระสงฆ์ สำหรับวัดพระสิงห์ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร สร้างขึ้นโดยพญาผายู ประมาณปีพุทธศักราช 1888 เพื่ออุทิศถวายพญาคำฟู เดิมชื่อวัดลีเชียงพระ ต่อมามีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ มาประดิษฐาน ประชาชน จึงเรียกว่า "วัดพระสิงห์" ภายในบริเวณวัดมีโบราณสถานสำคัญ อาทิ พระมหาธาตุเจดีย์ พระวิหารลายคำ พระอุโบสถสองสงฆ์ หอไตรโบราณ และเป็นที่ตั้งของโรงเรียนธรรมราชศึกษา จัดการเรียนการสอนแก่สามเณรและฆราวาส ในระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1ถึง 6 ปัจจุบันมี พระเทพสิงหวราจารย์ โสภณ โสภโณ เป็นเจ้าอาวาสวัด มีพระพระสงฆ์และสามเณร จำพรรษารวม 95 รูป
เวลา 18 นาฬิกา 29 นาที เสด็จพระราชดำเนินไปยังพระวิหารหลวง วัดเจดีย์หลวง อำเภอเมืองเชียงใหม่ ทรงประกอบพิธีสมโภชพระอัฏฐารส และพระอัครสาวก พร้อมทรงบรรจุพระบรมสารีกริกธาตุ ในยอดฉัตรทองคำ เพื่อเชิญไปประดิษฐาน เหนือปราสาทเฟื้องสันหลังคาพระวิหาร ในการนี้ ทรงสรงพระบรมสารีริกธาตุ และทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุในพระกรัณฑ์ แล้วทรงหยิบพระกรัณฑ์ลงในยอดฉัตรทองคำ จากนั้น พระราชทานพระบรมสารีริกธาตุ ที่บรรจุในยอดฉัตรทองคำ แก่เจ้าพนักงานพระราชพิธี เพื่ออัญเชิญไปประดิษฐานที่บุษบกหน้าพระอัฏฐารส พระประธานประจำวิหารหลวง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปยืน ปางประทานอภัย หรือปางห้ามญาติ พระพุทธรูปประจำวันจันทร์ วันพระบรมราชสมภพ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ในการบูรณะพระอัฏฐารส พระอัครสาวก แท่นแก้ว และชุดหน้าบันพระวิหารหลวง
ต่อจากนั้น ทรงพระดำเนินไปยัง พระธาตุเจดีย์หลวง ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย บูชาพระธาตุเจดีย์หลวง แล้วทรงจุดเทียน พระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธี เชิญไปถวายเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง จุดบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภายในวัดเจดีย์หลวง ได้แก่ พระเจ้าอุ่มเมือง (เสาอินทขีล เสาหลักเมืองเชียงใหม่) , พระเจ้าสมปรารถนา , พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) และรูปเหมือนหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อดีตเจ้าอาวาสวัดเจดีย์หลวง รูปที่ 2
สำหรับวัดเจดีย์หลวง เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง อายุประมาณ 633 ปี สร้างขึ้นในสมัยพญาแสนเมืองมา เจ้าหลวงพระองค์ที่ 7 แห่งราชวงศ์มังราย ได้รับการยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อปี 2481 เป็นที่ตั้งของพระธาตุเจดีย์หลวง พระธาตุที่สูงที่สุดในภาคเหนือ เคยเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร เป็นระยะเวลากว่า 80 ปี ปัจจุบันเป็นที่บรรจุพระเกศาธาตุ ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และด้วยเป็นวัดเก่าแก่ เสนาสนะต่าง ๆ จึงทรุดโทรม ประกอบกับฝนตกหนัก และเคยเกิดแผ่นดินไหว จึงทำให้พระธาตุเจดีย์หลวงพังทลาย กรมศิลปากรได้บูรณปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จเมื่อปี 2535 ปัจจุบันมีพระราชวชิรสิทธิ เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ สามเณร จำพรรษา 50 รูป และในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงปฎิบัติพระราชกรณียกิจในครั้งนี้ มีราษฎรจากจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียง พร้อมใจไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ด้วยความจงรักภักดี และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ตลอดเส้นทางที่ทรงพระดำเนิน มีกลุ่มสตรีในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ กว่า 500 คน ร่วมฟ้อนเทียน ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของภาคเหนือ อย่างงดงาม สมพระเกียรติ
จากนั้น ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยัง ท่าอากาศยานทหารกองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับกรุงเทพมหานคร
แท็กที่เกี่ยวข้อง ในหลวง ,พระราชินี ,ถวายสักการะพระมหาธาตุเจดีย์ ,บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ