กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ พื้นที่จังหวัดภาคใต้

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ระหว่างวันที่ 19 ถึง 22 กันยายน 2565


วันนี้ เวลา 10.41 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดมหาธาตุวชิรมงคล อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ทรงเป็นประธานในพิธีสมโภช ฉลองพระพุทธสิริคุณาธรโลกวิวรณปาฏิหาริย์ ซึ่งพระเทพวชิรากร (พิศาล ปุรินทะโก) เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวชิรมงคล ร่วมกับ ประชาชนจังหวัดกระบี่ จัดสร้างขึ้น เมื่อปี 2561 เป็นพระพุทธรูปปางเปิดโลก สูง 32 เมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง


สำหรับพระพุทธรูปปางเปิดโลก เป็นพระพุทธรูปอยู่ในอิริยาบถยืนอยู่บนดอกบัว พระหัตถ์ทั้งสองห้อยลงข้างพระวรกาย แบฝ่าพระหัตถ์ทั้งสองข้างออกไปข้างหน้า บางแบบจะยกพระหัตถ์ทั้สองข้างขึ้น แสดงถึงเหตุการณ์เมื่อครบกำหนด 3 เดือน ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จขึ้นไปจำพรรษาโปรดพุทธมารดา แล้วเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทรงเปิดโลกทั้ง 3 คือ เทวโลก ยมโลก และมนุษยโลก ให้มองเห็นถึงกันหมด แล้วจึงเสด็จลีลาลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่สังกัสสนคร ซึ่งตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 หรือ วันเทโวโรหณะ


วัดมหาธาตุวชิรมงคล เดิมชื่อ วัดบางโทง สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย สร้างขึ้นประมาณปี 2483 และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี 2496 ปัจจุบันมีพระสงฆ์ จำพรรษา 24 รูป สามเณร 22 รูป และแม่ชี 9 คน ทั้งนี้ตั้งแต่พระเทพวชิรากร ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัด เมื่อปี 2545 ได้บูรณะเสนาสนะ และปูชนียวัตถุต่าง ๆ ภายในวัดที่ชำรุดทรุดโทรม และดำเนินการก่อสร้างขึ้นใหม่ อาทิ อุโบสถ, พระมหาธาตุเจดีย์ เฉลิมพระเกียรติ 50 พรรษา มหาวชิราลงกรณ์ , รูปเหมือนหลวงปู่ทวด ขนาดหน้าตักกว้าง 9 เมตร 9 นิ้ว และพระพุทธรูปปางลีลา สูง 3 เมตร


เวลา 14.14 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ทรงเปิดการประชุมวิชาการและนิทรรศการ ครั้งที่ 11 ทรัพยากรไทย : 30 ปี อพ.สธ. ประโยชน์แท้แก่มหาชน การประชุมวิชาการของโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี หรือ อพ. สธ. จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 โดยมีมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นเจ้าภาพจัดงาน ระหว่างวันที่ 19 -24 กันยายน เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสืบสานพระราชปณิธาน ในงานอนุรักษ์ทรัพยากรของประเทศ และเปิดโอกาสให้เยาวชน ประชาชน นักวิชาการ ได้รับรู้ และตระหนักถึงความหลากหลาย แห่งศักยภาพของทรัพยากรไทย


โอกาสนี้ พระราชทานเกียรติบัตรงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น ขั้นที่ 1 ป้ายสนองพระราชดำริ ในงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และป้ายสนองพระราชดำริ ในงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น และมีพระราชดำรัสเปิดการประชุม


จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการการนำเสนอผลงานของ อพ. สธ. และหน่วยงานที่ร่วมสนองพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ และจากภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ นิทรรศการเจ้าฟ้านักอนุรักษ์ และแผนแม่บทที่ 5 ปีที่ 7 ของ อพ.สธ. ซึ่งได้กำหนดแผน ที่จะนำฐานข้อมูลทรัพยากรดิจิทัล มาจัดทำฐานข้อมูลทรัพยากรของประเทศไทย ช่วยในการขึ้นทะเบียนทรัพยากร การรักษาสิทธิ์ให้กับองค์กรปกครองท้องถิ่น และชุมชน ได้เห็นคุณและรู้ค่าของทรัพยากรที่มีอยู่ นำไปสู่การสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากร ซึ่งจะทำให้การเก็บข้อมูลถูกต้อง รวดเร็ว , นิทรรศการ อพ.สธ. ของมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ นำเสนองานวิจัยในพื้นที่ตั้งแต่เทือกเขา ถึงทะเล


อาทิ นิทรรศการ "จุลินทรีย์เทือกเขาหลวง ทรัพย์สิ่งสินตน เกิดประโยชน์แก่มหาชน" เป็นงานวิจัย ที่ค้นหาและรวบรวมจุลินทรีย์ท้องถิ่นที่มีประโยชน์ต่อการปลูกพืช ทดสอบและคัดเลือกสายพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูง และพัฒนานวัตกรรมที่เหมาะสมต่อการใช้งาน และต่อยอดให้เกิดประโยชน์สูงสุด , "พืชจาก" ความอุดมสมบูรณ์ของลุ่มน้ำ ส่งเสริมให้ใช้ภูมิปัญญาทัองถิ่น สร้างมูลค่าเพิ่ม , จัดทำธนาคารปูม้า การปล่อยปูม้าที่เหมาะสมกับชุมชน และการประยุกต์ศิลปวัฒนธรรมเมืองนคร


นอกจากนี้ ยังมีนิทรรศการสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน และนิทรรศการฐานทรัพยากรท้องถิ่น รวมทั้งการประชุมวิชาการ การบรรยายพิเศษ การนำเสนอผลงาน โดยผู้เรียน และเยาวชน , การประชุมวิชาการงานฐานทรัพยากรท้องถิ่น เป็นการเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมสนองพระราชดำริได้ทบทวนศักยภาพ ความสามารถ ตลอดจนจัดการฐานข้อมูลต่าง ๆ เพื่อร่วมนำเสนอข้อมูล ที่แสดงถึงศักยภาพของทรัพยากรไทย ภายในงานยังมีการแสดงศิลปะพื้นบ้านภาคใต้ การแสดงจากสมาชิกสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน การออกร้านจำหน่ายอาหาร และสินค้าพื้นบ้านด้วย