พระราชสำนัก

กรมพระศรีสวางควัฒนฯ ทรงออกหน่วยแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในพื้นที่จ.สกลนคร เป็นวันที่ 2

โดย parichat_p

9 ส.ค. 2565

15 views

สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงออกหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เป็นวันที่ 2


วันนี้ เวลา 08.03 น. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปยัง อาคารวิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ทรงออกหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เป็นวันที่ 2 ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ในการนี้ทรงฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้กับสุนัขพันธุ์ไทย เพศผู้ อายุ 2 ปี


จากนั้น ทรงงานวิสัญญีสัตวแพทย์ ร่วมกับคณะสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ เพื่อผ่าตัดทำหมันให้กับสุนัข จำนวน 8 ตัว ภายในรถผ่าตัดทำหมันเคลื่อนที่ ซึ่งติดตั้งอุปกรณ์ที่มีมาตรฐานและความปลอดภัยสูง เพื่อให้การผ่าตัดทำหมันมีประสิทธิภาพ และถูกต้องตามหลักวิชาการทางสัตวแพทย์


ในการนี้ ทรงวางยาสลบสุนัข โดยทรงให้ยานำสลบ และยาสลบเข้าหลอดเลือด ทรงใช้ยาดมสลบเพื่อคงภาวะการสลบ พร้อมกับทรงติดตามเฝ้าระวังสัญญาณชีพ ของสุนัขอย่างใกล้ชิด เพื่อทรงประเมินความปลอดภัยของสุนัข ตลอดระยะเวลาการผ่าตัด


ทั้งนี้ ด้วยมีพระประสงค์ให้โรคพิษสุนัขบ้าหมดไปจากประเทศไทยอย่างยั่งยืน จึงมีพระดำริให้จัดตั้งโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ซึ่งพบว่า ผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า มีจำนวนลดลงอย่างมาก สอดคล้องกับจำนวนสัตว์ป่วย ด้วยโรคพิษสุนัขบ้าที่ลดลง ซึ่งจังหวัดสกลนคร ได้ออกหน่วยให้บริการฉีดวัคซีน และผ่าตัดทำหมันสุนัขและแมว ปีละไม่ต่ำกว่า 1 พันตัว


โดยการออกหน่วยสัตวแพทย์อาสาจุฬาภรณ์ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดสกลนคร สำนักงานปศุสัตว์เขต 4 และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งมีนิสิตนักศึกษาช่วยงาน จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ร่วมให้บริการฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิ และผ่าตัดทำหมันให้สุนัขและแมว


โดยวันนี้ มีสุนัขและแมวที่ได้รับการฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิจำนวน 131 ตัว และผ่าตัดทำหมันจำนวน 146 ตัว นอกจากนี้ ยังโปรดให้หน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ให้บริการตรวจรักษาพยาบาลโรคทั่วไป รวมทั้งให้คำแนะนำในการป้องกัน ฟื้นฟูสุขภาพอนามัย แก่ประชาชนจำนวน 187 คน ปัญหาสุขภาพส่วนใหญ่ที่พบ คือ โรคระบบกล้ามเนื้อ กระดูกและข้อ รองลงมา คือโรคระบบทางเดินอาหาร และโรคระบบจักษุ มีผู้ป่วยส่งต่อไปรักษายังโรงพยาบาลต่าง ๆ จำนวน 12 คน