กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงพระราชทานปริญญาบัตร ผู้สำเร็จการศึกษาจาก ม.เทคโนโลยีสุรนารี ปีการศึกษา 2563

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ดังนี้



วันนี้เวลา 09.22 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอาคารสุรพัฒน์ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ประจำปีการศึกษา 2563



โดยมีผู้เข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ (ฟิสิกส์ประยุกต์) จำนวน 1 คน และมีผู้สำเร็จการศึกษาจาก สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ สำนักวิชาเทคโนโลยีการเกษตร สำนักวิชาเทคโนโลยีสังคม สำนักวิชาแพทยศาสตร์ สำนักวิชาสาธารณสุขศาสตร์ สำนักวิชาพยาบาลศาสตร์ สำนักวิชาทันตแพทยศาสตร์ สถาบันการบินพลเรือน และสำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ระดับปริญญาเอก โท และตรี รวม 2,699 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ได้รับพระราชทานปริญญาเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง และได้คะแนนยอดเยี่ยมจากสาขาวิชาต่าง ๆ เข้ารับพระราชทานเข็มทองคำ จำนวน 30 คน ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ดำเนินงานตามภารกิจเป็นปีที่ 31 โดยเปิดสอน รวม 107 หลักสูตร ด้านการวิจัยพัฒนา ปี 2563 มีผลงานวิจัยได้เผยแพร่ระดับนานาชาติ จำนวน 617 ผลงาน



โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความว่า "บัณฑิตทั้งหลายได้สำเร็จการศึกษาแล้ว เมื่อจะออกไปประกอบกิจการงาน ย่อมปรารถนาความสำเร็จ และความมั่นคงก้าวหน้าด้วยกันทุกคน การจะทำให้ได้ดังที่กล่าว ต้องอาศัยความรู้ในหลักวิชา ความรู้ความเข้าใจในงาน ตลอดจนความรู้รอบตัว เกี่ยวกับความก้าวหน้าทางวิชาการและข่าวสารข้อมูลต่าง ๆ



อีกทั้งแต่ละคนยังต้องฝึกฝนตนเอง ให้มีพื้นฐานจิตใจที่ดี และมีความตั้งใจจริง เป็นเครื่องประกอบส่งเสริม ข้อสำคัญ บัณฑิตพึงระลึกไว้เสมอว่า นอกจากจะต้องสร้างความสำเร็จและความเจริญให้แก่ตนเองแล้ว แต่ละคนยังมีหน้าที่ต่อส่วนรวม คือต้องเป็นทั้งกำลัง ทั้งผู้นำในการปฏิบัติพัฒนากิจการต่าง ๆ ของบ้านเมือง ให้มีความรุ่งเรือง และก้าวหน้ามั่นคงยิ่งขึ้นด้วย หากบัณฑิตจะได้ตระหนักในหน้าที่ของตน แล้วร่วมมือกันสร้างสรรค์ ประโยชน์ให้แก่ส่วนรวม และประเทศชาติแล้ว บ้านเมืองเราก็จะมีความผาสุกร่มเย็น และมั่นคงยั่งยืนตลอดไป"



จากนั้นเวลา 13.21 น. เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิด "อาคารเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี (ศูนย์อุบัติเหตุและฉุกเฉิน) โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา" จัดสร้างขึ้น เพื่อรองรับผู้ป่วยอุบัติเหตุฉุกเฉินที่มีจำนวนมาก ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนามอาคารดังกล่าว และพระราชทานพระราชานุญาต ให้เชิญอักษร พระนามาภิไธยย่อ "สธ" ประดับที่อาคาร เพื่อความเป็นสิริมงคล



ในการนี้ทอดพระเนตรนิทรรศการ การดำเนินงานของโรงพยาบาล ซึ่งเป็นอาคารสูง 12 ชั้น ประกอบด้วย ศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉิน , ศูนย์ผ่าตัดสมองโดยใช้ระบบนําร่องการผ่าตัด (Navigator) , ศูนย์ผู้ป่วยอุบัติเหตุครบวงจร , ศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหาร ,หอผู้ป่วยวิกฤต , หอผู้ป่วยไฟไหม้-น้ำร้อนลวก , หอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุหญิง , หอผู้ป่วยศัลยกรรมอุบัติเหตุชาย และลานจอดเฮลิคอปเตอร์ ดําเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564



โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2452 บนพื้นที่ 136 ไร่ เดิมชื่อ โรงพยาบาลนครราชสีมา ต่อมาปี 2524 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนามว่า "โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา" ซึ่งเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่ที่สุด ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองรับผู้ป่วย 1,300 เตียง เป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วย ตลอดจนให้การรักษาต่อในระดับทุติยภูมิ , ตติยภูมิ และยังเป็นโรงพยาบาลที่ร่วมผลิตแพทย์ ในโครงการผลิตแพทย์เพื่อชาวชนบทด้วย