พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ เสด็จฯ พระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากม.ศิลปากร ประจำปีการศึกษา 2563

โดย parichat_p

10 มิ.ย. 2565

70 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยศิลปากร ประจำปีการศึกษา 2563


วันนี้ เวลา 09.08 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังศูนย์ศิลปวัฒนธรรมเฉลิม พระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐม ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ประจำปีการศึกษา 2563


การนี้ สภามหาวิทยาลัยศิลปากร ขอพระราชทานทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการสอนภาษาไทย แด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตั้งพระราชหฤทัยมั่นในการพัฒนาการศึกษาของชาติ เพื่อเสริมสร้าง พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพและคุณธรรม


โดยเฉพาะผู้เรียนระดับประถมศึกษา ทั้งในเขตชุมชนเมืองและในเขตทุรกันดารชายแดน ทรงเน้นการ อ่านเขียนภาษาไทย ให้คล่องแคล่ว อันเป็นพื้นฐานสำคัญนำไปสู่ความสำเร็จในการเรียนรู้เรื่องอื่นๆ ในอนาคตสืบไป ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมสนองพระราชดำริ ปรากฎผลเป็นโครงการตามพระราชดำริจำนวนมาก พร้อมกันนี้ได้ถวายปริญญา ปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาทัศนศิลป์ แด่พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ ที่ทรงนำความรู้และพระอัจฉริยภาพทางด้านศิลปะ มาพัฒนาและทำนุบำรุง ศิลปวัฒนธรรมไทย ทรงบุกเบิกและส่งเสริมให้เกิดความรัก ความหวงแหน ความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมของคนในพื้นที่


ตลอดจนสนับสนุนให้เกิดการบูรณาการศาสตร์และศิลป์ จนเกิดความเข้มแข็ง สร้างความสุขที่ยั่งยืนแก่คนในชุมชน และในการนี้พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ รวมทั้งพระราชทานเกียรติบัตรแก่ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พระราชทานประกาศเกียรติคุณรางวัลนักวิจัยนวัตกรรม สร้างสรรค์ รุ่นใหม่ดีเด่น ประจำปี 2564 พระราชทานปริญญาบัตรแก่ ผู้สำเร็จการศึกษา ทั้งในระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก จำนวน 3,442 คน และพระราชทานทุนภูมิพล จำนวน 28 คน


โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความสำคัญตอนหนึ่งว่า "บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแล้ว ถือได้ว่าเป็นผู้รู้ ผู้มีความสามารถเพียงพอ ที่จะออกไปประกอบอาชีพการงาน สร้างความสำเร็จแก่ตนเองแก่ส่วนรวมได้ ในการทำงานเพื่อสร้างความสำเร็จ และความเจริญนั้น บัณฑิตจะต้องนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่ ไปปรับใช้ในการประกอบสัมมาอาชีพ จนมีความเชี่ยวชาญชำนาญ


อีกประการหนึ่งจะต้องตระหนักด้วยว่า ปัจจัยสำคัญที่ประคับประคองเกื้อกูลการทำงาน คือ คุณธรรมความสุจริต ศรัทธาความเชื่อมั่นในความดี และศีลธรรมความประพฤติปฏิบัติที่ดีที่ชอบ หากบัณฑิตถึงพร้อมด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้ กิจการงานทุกอย่างที่ทำ ก็จะสำเร็จผลอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ตนเองและประเทศชาติได้เป็นแน่แท้"