พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จาก ม.นครพนม และ ม.อุบลราชธานี

15 ธ.ค. 2564

71 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา จากมหาวิทยาลัยนครพนม และมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี


วันนี้ เวลา 9 นาฬิกา 52 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอาคารศรีโคตรบูรณ์ มหาวิทยาลัยนครพนม อำเภอเมือง จังหวัดนครพนม ในการพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2563 โดยปีนี้ มีผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท และปริญญาตรี เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร รวมทั้งสิ้น 1 พัน 6 คน


ในการนี้ พระราชทานพระราโชวาทความว่า " บัณฑิตเมื่อจบการศึกษา ชีวิตเปลี่ยนแปลงจากวัยเรียนเป็นวัยทำงาน ในการประกอบอาชีพการงานและการดำเนินชีวิต นอกจากความเก่งกาจสามารถแล้ว ปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ที่จะช่วยเกื้อกูลให้บัณฑิต ประสบผลสำเร็จในหน้าที่การงาน และการดำเนินชีวิตมั่นคงปลอดภัย ได้แก่ สติ คือ ความระลึกรู้ตัว ว่าตนเองกำลังทำอะไร ไม่เลอะเลือนเผลอไผล เมื่อมีสติปัญญาที่จะพิจารณาว่าการกระทำนั้นๆ เป็นคุณหรือโทษ ก็จะเกิดตามมา ที่เรียกว่า สัมปชัญญะ มักกล่าวร่วมกันว่า สติสัมปชัญญะ ผู้มีสติย่อมเป็นผู้มีความยั้งคิด พิจารณาสิ่งที่จะทำ คำที่จะพูดว่าถูกต้องสมควรหรือไม่ เป็นประโยชน์หรือก่อให้เกิดผลเสียแก่ตน หรือเบียดเบียนผู้อื่นหรือไม่ ทั้งจะช่วยให้เป็นผู้ไม่ประมาท สติจึงเป็นเครื่องเหนี่ยวรั้ง ไม่ให้คนเราคิดและทำสิ่งที่ไม่เป็นสาระ ไม่เป็นประโยชน์ ขอให้บัณฑิตทั้งหลายสังวรระวังในเรื่องที่กล่าวมานี้ และควรฝึกตน ให้เป็นผู้มีสติอยู่เสมอ ก็จะส่งผลเป็นความสุขความสำเร็จ เป็นประโยชน์เกื้อกูลทั้งแก่ตน ตลอดจนผู้อื่นที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกัน"


เวลา 13 นาฬิกา 47 นาที เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปยังอาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2563 โอกาสนี้พระราชทานรางวัลรัตโนบล ประจำปี 2564 จำนวน 2 คน ซึ่งเป็นผู้ที่มีผลงานทางวิชาชีพ ที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับ และพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิติมศักดิ์แก่ผู้ทรงคุณวุฒิ สาขาวิชาประวัติศาสตร์ พร้อมกับพระราชทานปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาเอก ปริญญาโท และปริญญาตรี จำนวน 3 พัน 183 คน

โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาท ความว่า "บัณฑิตทั้งหลายคงจะทราบดีอยู่แล้วว่า ในปัจจุบันนี้ การสื่อสารมีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการดำเนินชีวิตของคนเรา การที่วิทยาการและนวัตกรรมด้านการสื่อสารเจริญก้าวหน้าขึ้นเป็นอันมาก ทำให้คนทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารกันได้สะดวกและรวดเร็ว จนดูเสมือนว่าโลกของเราแคบลง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่มีประโยชน์ ก็สามารถทำได้ในวงกว้าง ส่งผลดีทั้งในด้านเศรษฐกิจ การแพทย์ การสาธารณสุข การศึกษา เป็นต้น อย่างไรก็ดี เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ผลกระทบในทางลบก็มีมาก ดังเช่นการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เกิดโทษ บัณฑิตทุกคนได้รับการศึกษาอบรมมาดีแล้ว จึงต้องรู้จักใช้สติ ปัญญา และวิจารณญาณในการแยกแยะความถูกความผิด ความจริงความเท็จ ความควรไม่ควร ข้อมูลข่าวสารใดที่น่าสงสัย ก็ยังไม่ควรเชื่อ แต่ต้องพิสูจน์หาข้อเท็จจริง บัณฑิตต้องรู้เท่าทันการสื่อสาร และใช้การสื่อสารด้วยความประสงค์ดี ใช้ในทางสร้างสรรค์ ในทางที่เป็นคุณเป็นประโยชน์ แก่ตน แก่สังคม และแก่ประเทศชาติ หากบัณฑิตทุกคนยึดถือปฏิบัติได้ดังนี้ ก็จะเท่ากับมีส่วนช่วยจรรโลงสังคม และประเทศชาติให้มีความสุขสงบ มีความเจริญมั่นคงและยั่งยืน"

หลังพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ได้ทอดพระเนตรผลิตภัณฑ์โอทอปของจังหวัดอุบลราชธานี อาทิ ผ้าไหม กลุ่มโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ อำเภอบุณฑริก , ผ้าฝ้ายย้อมคราม วิสาหกิจชุมชน อำเภอนาตาล และพระราชทานพระราชวโรกาส ให้อธิการบดีมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย "ผ้ากาบบัวจกดาว" ผ้าเอกลักษณ์ของจังหวัดอุบลราชธานี และหนังสือ เรื่องหอมอยู่มิรู้หาย และหนังสืองานวิจัย , หนังสือผลผลิตจากการลงพื้นที่สำรวจ และจัดระบบคัมภีร์ใบลาน รวมถึงผลิตภัณฑ์ของจังหวัดอุบลราชธานี