พระราชสำนัก

ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯ งานเลี้ยงถวายพระกายาหารค่ำอย่างเป็นทางการ

16 พ.ย. 2568

42 views

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงร่วมงานถวายพระกระยาหารค่ำอย่างเป็นทางการ พร้อมทรงวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชน และทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระเขี้ยวแก้ว ณ วัดหลิงกวง กรุงปักกิ่ง



วันที่ 14 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2568 เวลา 18 นาฬิกา 23 นาที ตามเวลาท้องถิ่นของสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังมหาศาลาประชาชน ทรงร่วมงานถวายพระกระยาหารค่ำอย่างเป็นทางการ ซึ่งรัฐบาลจีน โดยนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จัดถวายในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายน 2568



โดยมี นายซุน เว่ยตง  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน รอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ



มหาศาลาประชาชน ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปีพุทธศักราช 2502 เพื่อฉลองวาระครบ 10 ปีการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นสถานที่ที่ผู้นำจีนใช้ในการต้อนรับ จัดประชุมหารือ และเลี้ยงรับรองพระประมุข ประมุข หัวหน้ารัฐบาล และผู้แทนระดับสูงจากต่างประเทศ เมื่อมีการเสด็จพระราชดำเนิน หรือเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ



วันที่ 15 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2568 เวลา 10 นาฬิกา 15 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังอนุสาวรีย์วีรชน จตุรัสเทียนอันเหมิน โดยมี นายซุน เว่ยตง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนจีน, นายเหวิน เซี่ยน  รองนายกเทศมนตรีกรุงปักกิ่ง, พลตรี เหลียง เฟิง  รองผู้บัญชาการกองทหารรักษาการณ์กรุงปักกิ่ง รอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ



โอกาสนี้ ประทับยืนหน้าพวงมาลา เพื่อทรงรับการถวายความเคารพจากนายทหารจีนผู้เชิญพวงมาลา



จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระดำเนินขึ้นไปยังฐานอนุสาวรีย์วีรชน ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวางพวงมาลา



จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงคำนับและประทับยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่วีรชน ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับพระประมุข ประมุข หัวหน้ารัฐบาล และคณะผู้แทนต่างประเทศระดับสูงที่เสด็จพระราชดำเนิน หรือเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการ



อนุสาวรีย์วีรชน เป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของจตุรัสเทียนอันเหมิน ก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปีพุทธศักราช 2501 เพื่ออุทิศแด่วีรชนที่สละชีวิตในการต่อสู้เพื่อชาติในหลายเหตุการณ์สำคัญของจีน





ด้านหน้าจารึกข้อความภาษาจีน “เหรินหมิน อิงส๋ง หย่งฉุย ปู้สิ่ว” สลักจากลายมือของนายเหมา เจ๋อตง อดีตประธานพรรคคอมมิวนิสต์จีน และผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความหมายถึง “เกียรติยศชั่วนิรันดร์จงมีแด่วีรชน” ด้านหลัง มีจารึกข้อความสดุดีวีรชน ที่สลักจากลายมือของนายโจว เอินไหล อดีตนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน



เวลา 11 นาฬิกา 9 นาที พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดหลิงกวง วัดเก่าแก่ในกรุงปักกิ่ง อายุกว่า 1,000 ปี ตลอดสองข้างทางมีพุทธศาสนิกชนชาวจีน รอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ วงดนตรีพื้นเมืองบรรเลงเพลงจีน



เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง มีพระมหาคณาจารย์เหยี่ยนเจว๋  ประธานพุทธสมาคมจีน (เทียบเท่าสมเด็จพระสังฆราชของไทย), พระอาจารย์ฉางจ้าง  เจ้าอาวาสวัดหลิงกวง รอรับเสด็จ พร้อมด้วยบุคคลสำคัญ และพุทธศาสนิกชนชาวจีน



ในการนี้ เสด็จพระราชดำเนินไปยังวิหารหยวนทง ทรงพระดำเนินเวียนขวาไปทรงสักการะพระพุทธรูปพระศากยมุนี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายต้นไม้ทอง ต้นไม้เงิน และดอกไม้ธูปเทียนแพ บนโต๊ะหน้าแท่นบูชาพระพุทธรูปพระศากยมุนี



จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการท้ายที่นั่งบูชาพระพุทธรูปพระศากยมุนี ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดใหญ่ เนื้อโลหะลงรักปิดทอง พุทธศิลป์ไทยยุคสุโขทัย ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ สมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 18 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้ประทานมาประดิษฐานที่วัดหลิงกวง ตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบัน เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนชาวจีน และชาวต่างประเทศ ที่เดินทางมาสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) ณ วัดหลิงกวง



ต่อจากนั้น ทรงพระดำเนินไปยังวิหารชั้นล่างขององค์พระมหาเจดีย์ ทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระเขี้ยวแก้ว ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีเพียง 2 องค์บนโลกมนุษย์ องค์ที่ 1 ประดิษฐานอยู่ที่วัดพระเขี้ยวแก้วกลางเมืองแคนดี้ สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และองค์ที่ 2 ประดิษฐานอยู่ ณ วัดหลิงกวง แห่งนี้



ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายต้นไม้เงินทอง ต้นไม้เงิน และดอกไม้ธูปเทียนแพ ที่โต๊ะหน้าแท่นบูชา หน้าสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูป 3 องค์ คือ พระทีปังกรพุทธเจ้า พระศากยมุนีพุทธเจ้า และพระเมตไตรยพุทธเจ้า



จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสักการะพระบรมสารีริกธาตุ บรรพชิตจีนเจริญพระพุทธมนต์



ในการนี้ ประธานพุทธสมาคมจีน ถวายพระพุทธรูปพระไภษัชยคุรุไวฑูรยประภา แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และเจ้าอาวาสวัดหลิงกวง ถวายประติมากรรมอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์แด่สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี



จากนั้น ทรงพระดำเนินเวียนขวารอบฐานองค์พระมหาเจดีย์ ทอดพระเนตรภาพจำหลักไม้แสดงพุทธประวัติและพระอรหันต์ 500 พระองค์ โดยเจ้าอาวาสวัดหลินกวงนำเสด็จ พร้อมถวายคำบรรยาย



สำหรับพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระเขี้ยวแก้ว ที่วัดหลิงกวง รัฐบาลไทยเคยอัญเชิญไปประดิษฐานเป็นการชั่วคราวที่ประเทศไทย 2 ครั้ง เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นการแสดงถึงความจริงใจและมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของทั้ง 2 ประเทศ โดยครั้งแรก ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 75 พรรษา 5 ธันวาคม 2555 ประดิษฐาน ณ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม และครั้งที่ 2 ประดิษฐาน ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสฉลองครบ 50 ปีความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรงสักการะพระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย รายงาน

แท็กที่เกี่ยวข้อง