สังคม
แจงปมดรามา หลานไล่ที่ยาย หวังฮุบบ้าน "พิมรี่พาย" มอบให้
12 ก.พ. 2565
4.8K views
จากกรณีพิมรี่พาย ซื้อบ้านน็อคดาวน์ ราคา 2.4 แสนบาท ให้ครอบครัวคนเก็บขยะที่สุโขทัย จนเป็นที่ชื่นชมกับผู้ที่พบเห็นและทราบข่าว แต่การได้บ้านมากับเป็นทุกข์ลาภ หลังมีกระแสข่าวแพร่ออกไป ว่า หลังจากครอบครัวของพี่น้องคนเก็บขยะ คือ พี่ตี๋ พี่อ๋อง ที่อาศัยอยู่ด้วยกัน 4 คน มีแม่และพี่ชายอีกคน
ในบ้านที่สร้างอยู่บนเนื้อที่ของญาติ ที่เป็นหลานสาว เมื่อพิมรี่พาย นำบ้านมามอบให้ กลับไม่ได้เข้าไปอาศัยอยู่ เนื่องจากหลานที่เป็นเจ้าของที่ไม่อนุญาตให้เข้าไปอาศัย จนเป็นกระแสข่าวดรามาในโลกออนไลน์ในขณะนี้

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปยัง บ้านเลขที่ 380/2 ม.8 ต.เมืองเก่า อ.เมืองสุโขทัย พบกับยายประสงค์ แม่ และ นายประเสริฐ พี่ชายของพี่ตี๋ พี่อ๋อง สอบถามถึงความเป็นอยู่และเหตุผลว่าทำไมไม่ยอมเข้าไปอยู่บ้านหลังใหม่ ซึ่งยายประสงค์ กล่าวว่า
ตนอายุมากแล้ว อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเก่ามานานหลายสิบปี รู้สึกติดที่ ไม่อยากย้ายไปไหน ส่วนบ้านหลังใหม่ที่พิมรี่พายมามอบให้ ตนเองรู้สึกดีใจ แต่ยังไม่เคยเข้าไปอยู่ ส่วนกระแสข่าวที่ว่าหลานสาวจะฮุบบ้านเป็นของตัวเองนั้นไม่จริง หลานยังให้อาศัยอยู่ในเนื้อที่บ้านของหลานอยู่ เพียงแต่ตนเองและครอบครัวมีความตั้งใจจะยกบ้านหลังใหม่ให้ลูกของหลาน แลกกับบ้านที่อาศัยอยู่หลังเดิม ให้ตัวเองและครอบครัวอยู่ไปจนกว่าจะตายจากกัน

ขณะที่พี่ตี๋ และพี่อ๋อง ได้กลับมาจากการเก็บของเก่าพอดี ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า ทำไม่ไม่ยอมเข้าไปอยู่บ้าน พี่ตี๋ได้แต่ยิ้ม ๆ แล้วเดินขึ้นบ้านไป ส่วนพี่อ๋อง บอกว่า ตนเองเจอพิมรี่พาย ระหว่างทางไปเก็บขยะตามท้องถนน และพิมรี่พายสอบถามว่า จะสร้างบ้านให้เอามั๊ย ตนเองก็ดีใจอยากได้บ้านหลังจากที่ได้บ้านหลังใหม่มา ก็ยังไม่เคยเข้าไปอยู่เลย ได้แต่เข้าไปดูเท่านั้น ส่วนเรื่องที่มีกระแสข่าวว่า ญาติที่เป็นเจ้าของที่ ไม่อนุญาตให้พวกตนเข้าไปอยู่จริงรึเปล่า พี่อ๋องก็ได้แต่ยิ้ม
ด้านนางมะลิ อายุ 47 ปี หลานสาวของนางประสงค์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน ที่พิมรี่พายนำบ้านน็อคดาวน์มาให้ กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีออกไปว่า ตนขับไล่ที่นางประสงค์กับลูก ๆ เพื่อหวังจะฮุบบ้านที่พิมรี่พายซื้อให้มาเป็นของตัวเองนั้น

นางมะลิ กล่าวว่า ไม่เป็นความจริง ตนไม่ได้ห้ามไม่ให้ครอบครัวของพี่ตี๋ และพี่อ๋อง เข้ามาอาศัยบ้านหลังใหม่ที่ตั้งอยู่หน้าบ้านตนเองและอยู่บนเนื้อที่ของตน ถ้าตนเองจะฮุบบ้านไม่ให้ครอบครัวนี้อยู่จริงคงไม่ให้อาศัยอยู่มาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว
พวกน้าและพี่ ๆ เค้าไม่เข้ามาอยู่เอง จะเป็นเรื่องติดที่รึยังไงก็ไม่ทราบได้ ที่จริงแล้วบ้านหลังนี้ ตนเองก็เป็นคนติดต่อขอไปยังทีมงานพิมรี่พายเอง ว่าน้าและครอบครัวมีฐานะยากจน บ้านที่อาศัยอยู่ผุพัง อยากให้มาช่วยซ่อมแซม แต่เมื่อติดต่อได้ แล้วปรากฏว่า กลับได้บ้านหลังใหม่
ส่วนที่บ้านหลังนี้มีที่กั้นทางขึ้นนั้นเพราะมีสุนัขจรชอบขึ้นไปบนบ้าน จึงได้เอาสังกะสีมากั้นกันไม่ให้สุนัขขึ้นไปเท่านั้นเอง ส่วนประตูบ้านก็ไม่ได้ปิดไว้เปิดเข้าไปได้ตามปกติ แต่ว่าครอบครัวของน้าทั้ง 4 คน ไม่ยอมขึ้นไปอยู่นั้น ต้องถามใจเค้าเอาเอง ส่วนครอบครัวข้องน้าทั้ง 4 คน นั้นตนเองคงจะให้อาศัยอยู่ต่อไปจนกว่าจะจากตายกันไป