กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่ จ.สงขลา

พระราชสำนัก

กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่ จ.สงขลา

โดย panwilai_c

18 ม.ค. 2565

72 views

สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ที่จังหวัดสงขลา ดังนี้



วันนี้เวลา 08.51 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อนภาคใต้ จังหวัดสงขลา อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา ทรงเปิดอาคาร "สิริชีวาทร" อาคารสำหรับผู้พิการทางสติปัญญาอายุ 5-18 ปี ซึ่งอยู่ในความดูแลของมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์



โดยได้รับพระราชทานนามอาคาร หมายถึง อาคารที่เอื้อเฟื้อแก่ชีวิตอันเป็นมงคล และพระราชทานพระราชานุญาต ให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย "สธ" ประดับที่ป้ายชื่ออาคารด้วย เป็นอาคาร 3 ชั้น ประกอบด้วยห้องต่างๆ อาทิ ห้องประทับรับรอง ,ห้องกายภาพบำบัด, ที่พักสำหรับผู้พิการชายและหญิง ,ห้องบูรณาการเพื่อพัฒนาผู้พิการทางสติปัญญา ทั้งนี้ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงรับมูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อน แห่งประเทศไทย ไว้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2505 เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูสมรรถภาพด้านต่างๆ แก่ผู้พิการทางสติปัญญา ให้สามารถช่วยเหลือตนเอง ไม่เป็นภาระครอบครัว และสังคม



สำหรับศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อนภาคใต้ จังหวัดสงขลา สร้างขึ้นเมื่อปี 2559 บนที่ดินบริจาคของนายวิทยา สิทธิรักษ์ เพื่อเป็นศูนย์ให้บริการด้านฝึกทักษะและอาชีพ แก่ผู้พิการทางสติปัญญา และเป็นศูนย์นำร่องให้ครอบคลุม 14 จังหวัดภาคใต้ ปัจจุบันมีผู้พิการทางสติปัญญาอายุระหว่าง 5-55 ปี เข้ารับการพัฒนาทักษะรวม 210 คน มีผู้ได้รับการจ้างงาน 25 คน ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาสามารถบริจาคเงิน ได้ที่บัญชี มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อน ฯ (ศูนย์สงเคราะห์บุคคลปัญญาอ่อนภาคใต้ จังหวัดสงขลา) เลขที่ 554 2 46166 5 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาสงขลา



ต่อมา เวลา 10.00 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยัง กองพลพัฒนาที่ 4 ค่ายรัตนพล อำเภอคลองหอยโข่ง ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการทหารพันธุ์ดี โดยกองพลพัฒนาที่ 4 ดำเนินงานตามแนวพระราชดำริ ตั้งแต่ปลายปี 2562 เพื่อเป็นศูนย์ผลิตพันธุ์สัตว์ปีก และพันธุ์ปลาน้ำจืด "เพื่อนช่วยเพื่อน" ภาคใต้ตอนล่าง ขยายผลไปยังพื้นที่ข้างเคียง เพื่อสร้างรายได้ และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน



โดยศูนย์ผลิตพันธุ์สัตว์ปีกพระราชทาน "เพื่อนช่วยเพื่อน" ภาคใต้ตอนล่าง ได้ผลิตพันธุ์ไก่กระดูกดำ และพันธุ์ไก่ประดู่หางดำ สำหรับอนุรักษ์ และน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เพื่อพระราชทานแก่ประชาชน นำไปเพาะเลี้ยงเพื่อบริโภค และประกอบอาชีพ เริ่มดำเนินการเมื่อปี 2563 ปัจจุบันได้สร้างกลุ่มเครือข่ายประชาชน และสถานศึกษา รวม 23 เครือข่ายใน 19 จังหวัด พร้อมกันนี้ กรมปศุสัตว์ได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายไก่ศรีวิชัยดำ และขาว เพื่อใช้ในโครงการทหารพันธุ์ดี



ต่อมา ทรงเปิดร้านภัทรพัฒน์ สาขาโครงการทหารพันธุ์ดี ค่ายรัตนพล ซึ่งเป็นแห่งแรกในภาคใต้ จำหน่ายสินค้าของมูลนิธิชัยพัฒนา ,โครงการฟาร์มตัวอย่างฯ และโครงการศิลปาชีพ ส่วนโครงการฟาร์มกล้วยไม้ ที่ดำเนินการเมื่อปี 2561 เพื่อเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว สร้างรายได้เสริมแก่กำลังพล และครอบครัว ปัจจุบันมีกล้วยไม้ 16 สายพันธุ์ โอกาสนี้ทรงพระดำเนินไปยังร้านกาแฟชายน้ำ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งพักผ่อน พร้อมจำหน่ายเครื่องดื่ม



จากนั้น ทรงเปิดศูนย์ผลิตพันธุ์ปลาน้ำจืดพระราชทาน "เพื่อนช่วยเพื่อน" ภาคใต้ตอนล่าง มีการผลิตพันธุ์ปลานิลจิตรลดา ปลาตะเพียนขาว ปลาหมอเทศ และปลาสลิด สำหรับน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เพื่อพระราชทานแก่ประชาชน โดยส่งมอบพันธุ์ปลานิลจิตรลดา ให้แก่ประชาชนตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ด้านศูนย์เรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่ "ตามรอยพ่อ" จัดตั้งขึ้น เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ "ศาสตร์พระราชา" มีการปลูกพืชผักตามฤดูกาล ทำแปลงนาข้าว และปศุสัตว์ ในพื้นที่ 4.5 ไร่ เลี้ยงเป็ดไข่พันธุ์กากีแคมป์เบลล์, แพะพันธุ์บอร์ พันธุ์จัมนาปารี และพันธุ์แองโกลโนเบียล รวมทั้งกระบือ เพื่อใช้งานการเกษตร และเป็นสถานที่ให้ความรู้ที่เรียกว่า กาสรนิเวศน์ ซึ่งกองทัพภาคที่ 4 มีค่ายทหารเข้าร่วมโครงการทหารพันธุ์ดี 9 ค่าย รวม 12 หน่วย



จากนั้น ประทับรถรางพระที่นั่งเสด็จพระราชดำเนิน ไปยังโรงเรียนบ้านคลองหอยโข่ง ที่มีการขยายผลโครงการทหารพันธุ์ดี "ชุมชนเบิกบาน อาหารปลอดภัย" สู่โรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล โดยมีการเลี้ยงปลา ทำแปลงผักสำหรับโครงการอาหารกลางวัน และขยายผลไปยังโรงเรียนตามแนวชายแดนในจังหวัดสงขลา และพัทลุงอีก 11 โรงเรียน



ในการนี้ ได้พระราชทานพระราชดำรัสเป็นกำลังใจ แก่สมาชิกทหารพันธุ์ดี กองพลพัฒนาที่ 4 ด้วย