วันนี้ (10 ม.ค.65) ที่ สภ.เมืองลำปาง กลุ่มผู้เสียหายจากการถูกไฮโซนักธุรกิจเมืองรถม้าหลอกให้ลงทุนทำธุรกิจปิด-ย้ายไฟแนนซ์ จนสูญเงินรวมกว่า 50 ล้าน ร่วม 10 คน พร้อมด้วยนายตรีณัฐฎ์ ศรีวิชัย ทนายความ เข้ารับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำปาง หลังฝ่ายจำเลยแสบเล่นแง่แก้เกี้ยวยื้อเวลา ให้แฟนสาวเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ากลุ่มผู้เสียหายทั้งหมดร่วมกันปล้นทรัพย์ หลังที่ยอมให้ผู้เสียหายไปเอาทรัพย์สินบางส่วนเพื่อชดใช้ค่าเสียหายจากเงินที่โกงไป

โดยนายเกมส์ หนึ่งในผู้เสียหายซึ่งสูญเงินไปกว่า 1.4 ล้านบาท เปิดเผยว่าตนเองมีอาชีพเป็นเทรนเนอร์ ไฮโซเบียร์ หรือนายปิยะพงษ์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีหน้าตาในสังคมธุรกิจ เป็นที่รู้จักกันในสังคม และยังเป็นลูกค้าของตนเองที่เข้ามาใช้บริการสถานออกกำลังกายซึ่งตนเองเป็นเทรนเนอร์ให้ จึงรู้จักและไปทานอาหารด้วนกันบ้าง ซึ่งนายเบียร์ก็ได้พูดคุยชักชวนให้เข้ามาลงทุนในธุรกิจปิด-ย้ายไฟแนนซ์ ตลอดพร้อมทั้งเสนอผลตอนแทนเป็นดอกเบี้ยจากเงินลงทุนที่สูงคือประมาณ7%ต่อเดือน ด้วยที่นายเบียร์ เป็นที่รู้จักในสังคม นามสกุลใหญ่โต ตนเองจึงหลงเชื่อและเริ่มต้นรวบรวมเงินมาลงทุนครั้งแรกห้าหมื่นบาท และหลังจากที่ได้ดอกเบี้ยก็รวบเงินมาสมทบลงไปเรื่อยๆเกือบตลอดสองปี รวมลงทุนไปกว่า 1.4 ล้านเศษ หลังจากนั้นก็เริ่มขอลดผลตอบแทนลง และ สุดท้ายก็หนีออกจากจังหวัดลำปางและบอกว่าไม่มีเงินแล้วทุกคนจึงต้องแจ้งความเป็นคดีรวมๆแล้วประมาร15คน นอกเหนือจากจากนั้นยังมีผู้ที่ถูกหลอกรายละหลักแสนอีกจำนวนมากที่ไม่ได้แจ้งความ แต่หลังจากที่แจ้งความและจำเลยขอประกันตัวไป กลุ่มผู้เสียหายก็ถูกหมายเรียกให้มาให้ปากคำในวันนี้โดยตำรวจบอกว่า นางสาวธีรนันท์ แฟนสาว ของนายเบียร์ เข้าแจ้งความว่าร่วมกันปล้นทรัพย์ ซึ่งกลุ่มของตนเองไม่ได้ปล้นทรัพย์อะไรเลย ซึ่งตนเองไม่โอเคเลย

ขณะที่นายน้ำเย็น หนึ่งในผู้เสียหาย บอกว่ากลุ่มของตนเองไม่กลัวกับการที่ถูกออกหมายเรียกให้มาให้ปากคำในวันนี้เพราะมีหลักฐานทุกอย่าง โดยเปิดเผยว่าหลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายได้ออกติดตามทวงเงินที่ถูกนายเบียร์โกงไป แต่นายเบียร์ ไม่มีเงินให้ จึงขอให้กลุ่มผู้เสียหายเข้าไปเอาทรัพย์บางส่วนที่อยู่ในร้านของนายเบียร์ไปเป็นการค้ำประกันไว้ก่อนซึ่งทรัพย์สินที่นำออกมาเมื่อคิดเป็นราคาแล้วมีค่าน้อยมากเทียบไม่ได้กับเงินที่สูญเสียไปได้เลย ซึ่งขณะที่เข้าไปเอานายเบียร์ก็ให้แม่บ้านคอยอำนวยความสะดวกให้กลุ่มของเอง แต่หลังจากที่นายเบียร์ถูกออกหมายจับ กลับให้แฟนสาวมาแจ้งความเพื่อยื้อเวลากับกลุ่มตนเองว่าร่วมกันปล้นทรัพย์ และที่ตนเองไม่เข้าใจคือทำไมตำรวจถูกรับเป็นคดีง่ายๆโดยไม่ทำการสืบสวนก่อนว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร เพราะผู้เสียหายคือกลุ่มของตนเองทั้งหมดกว่า15คนที่ถูกดกงเงินไปกว่า50ล้านบาท

“หลังจากที่นายเบียร์ถูกประกันตัวไปโดนนายพล(ทหาร)คนหนึ่ง ช่วยเหลือโดยใช้ตำแหน่งประกันตัวไปในวงเงินประกัน500,000บาท กลุ่มของตนเองก็ไม่มั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรมและจะได้เงินคืนหรือไม่ เพราะคดีก็ไม่คืบหน้า ซึ่งอยากให้ตำรวจนำคดีที่พวกเราแจ้งความไว้ทั้งหมดมารวมเป็นคดีเดียว แต่วันนี้หลังจากที่ถูกหมายเรียกและแจ้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันปล้นทรัพย์ ซึ่งทรัพย์บางตัวที่แจ้งว่าถูกปล้นมีกระท่ัง สายไฟ ซึ่งก็ถือว่าน่าแปลกใจเป็นอย่างมาก”

นายน้ำเย็นกล่าวอีกว่า หลังจากที่สอบถามพนักงานสอบสวน จึงทราบว่าสาเหตุที่ต้องรับเป็นคดีก็เพราะถูกนายโจ๊ก ซึ่งเป็นเพื่อนของนายเบียร์ ไฮโซเมืองรถม้า ก่อนหน้านั้นเคยอ้างตัวว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ระดับประเทศทั้งตำรวจและทหารเข้าไปเจรจากับผู้เสียหายแทนนายเบียร์เพื่อขอให้ยุติคดี แต่ถูกผู้เสียหายปฎิเสธ โทรมาข่มขู่ว่ารู้จักกับผู้ใหญ่ในวงการสีกากีระดับประเทศหากไม่รับแจ้งความก็จะเดือดร้อน ประกอบกับไม่ทราบว่ากลุ่มของตนเองคือผู้เสียหายที่ถูกกลุ่มของนายเบียร์และแฟนสาวที่มาแจ้งความโกงเงินไปกว่า50ล้านบาท

ทั้งนี้จากการผลิกประวัติของนายโจ๊ก หรือนายปิยะวงศ์  ที่โทรมาข่มขู่พนักงานสอบสวนให้รับคดี กับพบว่าเคยถูกจับและมีคดีติดตัวหลายคดี อาทิ คดีฉ้อโกง ในปี 57 , คดีลักทรัพย์ ในปี 58 , คดีเกี่ยวกับเช็ค ฉ้อโกง ในปี 60 , คดีร่วมกันในการฉ้อโกง ในปี 63 (รอออกหมาย) และ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวฯ หลบหนี (รอออกหมาย)

ขณะที่ทางด้านทนายความ บอกว่า ในคดีที่กลุ่มผู้เสียหายมาให้ปากคำและรับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้ไม่มีอะไรที่หนักใจ เพราะฝ่ายผู้เสียหายที่กลายมาเป็นจำเลยวันนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอทั้งหมดว่าไม่ได้ร่วมกันปล้นทรัพย์อย่างที่ถูกกล่าวหา และจะดำเนินการให้ถึงที่สุดต่อไป