เปิดคำสารภาพ พ่อเลี้ยงโหดทำร้ายลูก 6 ขวบ ทิ้งไว้ในรถจนตาย อ้างไสยศาสตร์หวังหนีผิด

อาชญากรรม

เปิดคำสารภาพ พ่อเลี้ยงโหดทำร้ายลูก 6 ขวบ ทิ้งไว้ในรถจนตาย อ้างไสยศาสตร์หวังหนีผิด

โดย thichaphat_d

4 ม.ค. 2565

804 views

กรณี ด.ช.สายฟ้า ถนอมวงษ์ อายุ 6 ปี เสียชีวิตปริศนา ภายในรถของ นายปัญญา ชัยเชียงเอม อายุ 44 ปี พ่อเลี้ยง ที่จอดอยู่ริมถนน


ด้านชาวบ้าน เปิดเผยว่า ผู้ตายถูกผู้ปกครองบังคับให้นอนในรถเป็นปีๆ และบังคับให้นอนในรถทุกคืน ห้ามออกจากรถหลัง 9 โมง อ้างว่า เนื่องจาก ด.ช.สายฟ้า โดนคุณไสยจนทำให้ควบคุมสติไม่ได้ชอบวิ่งกระแทกชนกำแพง ชนบ้าน ชนรถ หากอาการคุณไสยบังเกิด


หากแต่ผลชันสูตรศพ ตำรวจเชื่อว่า บาดแผลฟกช้ำตามร่างกาย เกิดขึ้นจากการทำร้ายร่างกายโดยบุคคลอื่น และ ด.ช.สายฟ้า มีอาการกะโหลกศีรษะแตก กระดูกหัก ส่วนอวัยวะภายในอยู่ระหว่างตรวจสอบ


วานนี้ (3 ม.ค. 65) พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ตราด พร้อมชุดสืบสวน ร่วมสอบปากคำ นายปัญญา ชัยเชียงเอม พ่อเลี้ยง และ นางนรินทร์รัตน์ ถนอมวงศ์ แม่ของ น้องสายฟ้า ซึ่งการสอบปากคำกินเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง


จนในที่สุด นายปัญญา พ่อเลี้ยงของเด็ก ยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นผู้ทำร้ายเด็กจนเสียชีวิตด้วยการทุบตีจนเด็กแน่นิ่งไปในเวลาเที่ยงคืน และนำตัวเด็กไปไว้ในรถ ซึ่งอยู่บริเวณลานจอดรถด้านล่าง ก่อนปิดประตูแล้วออกไปทำงานนอกบ้าน ตอนเช้าจึงได้มาเปิดประตูพบว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว


ทั้งนี้ พ่อเลี้ยงยังบอกว่าระหว่างนำเด็กไปไว้ในรถนั้นเด็กยังไม่เสียชีวิต


ด้าน นายปัญญา พ่อเลี้ยงของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สาเหตุที่ลงมือทำร้ายลูกชายเพราะ คืนเกินเหตุประมาณเที่ยงคืน ตนเองและลูกเลี้ยงเข้ามานอนในรถตามปกติ ตอนนั้นตนกำลังหงุดหงิดเพราะลูกเลี้ยงเซ้าซี้อยากจะขอไปจับปูด้วย ตนก็บอกว่าไม่ได้ เพราะเป็นเด็กต้องพักผ่อน แต่ก็ยังเซ้าซี้เล่นซนไปอยู่ในรถ จนลูกเลี้ยงทำของตก ทำให้โมโหจับลูกเลี้ยงเหวี่ยงที่ล้อรถยนต์จนบาดเจ็บ และ ตีสั่งสอนด้วยมือ ใช้ไม้ฟาดศรีษะ และ แขนขา


ตอนนั้นลูกยังลืมตามองหน้าปกติ เมื่อนำตัวไปนอนในรถก็ยังพลิกตัวไปมา ก่อนที่ตนเองจะออกไปจับปูให้ลูกเลี้ยงกินเพราะลูกเลี้ยงอยากกิน ส่วนร่างของลูกเลี้ยงซึ่งอยู่ในรถตลอดทั้งคืนนั้น เข้าใจว่าเด็กแค่นอนหลับ กระทั่งรุ่งเช้า นางนรินทร์รัตน์ มาส่องดูน้องสายฟ้า พบว่า ลูกเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ


นายปัญญากล่าวด้วยว่า ไม่ได้มีเจตนาทำร้ายลูกเลี้ยงจนเสียชีวิต แต่ด้วยเด็กที่ตัวเล็กอาจจะพลั้งมือไปบ้าง แล้วก็ไม่ได้แจ้งใครตั้งแต่แรกหลังเหวี่ยง แต่ก็ไม่คิดว่าลูกเลี้ยงจะถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนเหตุผลที่ไม่ยอมรับตั้งแต่แรกเพราะกลัวความผิด ยืนยันว่า ลงมือเพียงคนเดียว ส่วนแม่เด็กไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตเด็กในครั้งนี้


พล.ต.ต.ปกรณ์ มณีปกรณ์ ผบก.ภ.จ.ตราด กล่าวว่า ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของ นายปัญญาทั้งหมด แม้จะรับสารภาพว่าก่อเหตุ


เนื่องจาก ผลการสอบสวนอย่างละเอียด ยังพบสาเหตุการทำร้าย ด.ช.สายฟ้า ซึ่งมีปัจจัยส่วนหนึ่งมาจากยาเสพติด และ ดช.สายฟ้า อาจร้องไห้จึงลงมือทำร้าย เพราะขาดสติคุ้มคลั่งจากฤทธิ์ยา


ส่วนการกล่าวอ้างว่าเกิดจากความเชื่อทางไสยาศาสตร์ เนื่องจากต้องการเบี่ยงประเด็นเพื่ออำพรางคดี หากแต่กรณีแบบนี้ ตำรวจย่อมไม่ปักใจเชื่ออยู่แล้ว เนื่องจากคดีลักษณะนี้ต้องใช้ผลพิสูจน์ตามหลักวิทยาศาสตร์เป็นหลัก ดังนั้นการกล่าวอ้างลักษณะนี้ยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยและต้องพิสูจน์ทราบ จากบุคคลที่กล่าวอ้าง ซึ่งข้ออ้างแบบนี้ยิ่งทำให้มัดตัวมากขึ้น


สำหรับการดำเนินคดีนั้น เบื้องต้นตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหานายปัญญา ฐาน ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ส่วน นางนรินทร์รัตน์ ยังไม่มีการตั้งข้อหา เนื่องจากต้องรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำพยานเพิ่มเติม หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นการกระทำความผิด เจ้าหน้าที่สามารถแจ้งข้อหาเพิ่มเติมได้


สำหรับ นางนรินทร์รัตน์ ผู้เป็นแม่ พยานให้ข้อมูลว่า เคยทำร้ายลูกชาย แต่เป็นลักษณะการลงโทษไม่รุนแรง เนื่องจากเด็กดื้อเป็นบางคราว


ทั้งนี้ตำรวจ เตรียมนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ต้องพิจารณาว่าขัดต่อหลักศาสนาอิสลามในชุมชนหรือไม่ สำหรับคดีนี้ ขอขอบคุณชาวบ้านที่ร่วมกันให้ความร่วมมือให้ข้อมูล จนนำไปสู่การไขคดีและจับกุมคนร้ายได้ในที่สุด


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/KNHH-NpJpgU

คุณอาจสนใจ

Related News