ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์ข้อความ “ฝากถึงคุณลูกค้าบางคนที่ไร้มารยาท ก่อนเข้าสวนได้บอกกติกาให้เข้าใจแล้ว แต่จิตใจพวกคุณทำด้วยอะไร เก็บแล้วทิ้งหมายความว่าอะไรคะ (เศรษฐกิจก็ไม่ดีอยู่แล้ว ยังจะมาซ้ำเติมกันอีก) ไม่ใช่แค่ขีด2ขีด แต่นี่น่าจะ 2 โลนะ”

พร้อมทั้งมีการนำภาพสตรอว์เบอร์รี ที่ถูกเก็บไปซ่อนไว้ในโพรงของตอไม้และมีบางส่วน ถูกวางไว้กับพื้นดิน ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังผู้โพสต์ชื่อ นางสาวมณีรรณ วงศ์วิริยชาติ อายุ 31 ปี เจ้าของสวน ยอมรับเพิ่งเจอครั้งแรก แต่ญาติรวมทั้งเพื่อน ๆ ที่เป็นเจ้าของไร่สตรอว์เบอร์รีทั้งบนภูทับเบิกและที่เขาค้อ เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้กันมาหลายรายแล้ว คือนักท่องเที่ยวบางรายจะเก็บผลสตรอว์เบอร์รีไปเทไว้ในกอกล้วยบ้าง ในแปลงกะหล่ำปลีบ้าง ซึ่งเจ้าของสวนจะไปเจอผลผลิตถูกเก็บทิ้งตอนที่ลูกเหี่ยวแล้ว แถมมีรอยหนูเหยียบ เอามาขายไม่ได้



เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2564 ที่ภูทับเบิก ไร่สตรอว์เบอร์รีผาชมทะเล ซึ่งทางสวนได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บสตรอว์เบอร์รีเองสดๆ จากสวน โดยทางสวนมีกติกาคือห้ามชิมสตรอว์เบอร์รีในสวน แต่มาชิมนอกสวนได้ ให้นักท่องเที่ยวเก็บผลสตรอว์เบอร์รีเอง แล้วนำมาคิดเงินกับทางสวน โดยจะคิดในราคาขีดละ 50 บาท

ก็ถือเป็นมารยาทของการท่องเที่ยว ที่นักท่องเที่ยวเองก็ควรเห็นใจผู้ประกอบการ การเก็บผลไม้ในสวน ลูกค้าที่เข้าไปใช้บริการ หากเก็บผลผลิตมาแล้ว ก็ควรที่จะนำมาชำระเงิน แต่ถ้ายังตัดสินใจที่จะเสียเงินซื้อไม่ได้ ก็ไม่ควรจะเข้าไปเก็บผลผลิต เพราะจะเกิดความเสียหายต่อชาวสวน