กระทรวงการคลังเตรียมปฏิรูปโครงสร้างภาษี เพื่อเพิ่มการจัดเก็บรายได้ของภาครัฐ

โดยหนึ่งในนั้นคือ การจัดเก็บภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หรือ Financial Transaction tax ซึ่งอาจจะเริ่มในปี 2565 ตามสถานการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งก.คลังได้บอกว่าภาษีนี้ถูกยกเว้นมานานกว่า 30 ปี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในตลาดหุ้น

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.การคลัง เผยว่า ปัจจุบัน เรายกเว้นภาษีจากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงยกเว้น Capital gains tax ซึ่งในหลายประเทศมีการจัดเก็บภาษีทั้ง 2 ตัวนี้ บางประเทศก็เก็บตัวใดตัวหนึ่ง แต่ส่วนใหญ่มีการเก็บ Financial Transaction Tax

ทั้งนี้ มีความจำเป็นต้องเก็บภาษีดังกล่าวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับภาครัฐ หลังจากที่ได้มีการยกเว้นการจัดเก็บมาอย่างยาวนาน คิดว่าคงได้ภาษีเป็นกอบเป็นกำ แต่ไม่ถึงขนาดเป็นแสนล้าน การเก็บภาษีนี้เป็นการสร้างความเป็นธรรมที่การซื้อขายต้องจ่ายค่าธรรมเนียมแก่รัฐ ทั้งนี้ ถ้าดัชนีตลาดจะปรับลดลงก็ต้องยอมรับ

โดยการเก็บภาษีนี้ จะให้โบรกเกอร์เป็นผู้หักภาษีธุรกิจเฉพาะจากเงินที่ขาย และเป็นผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีและชำระภาษีแทนผู้ขาย แต่ทั้งนี้เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ซื้อขายหุ้นรายย่อย จะมีการหารือถึงอัตราการจัดเก็บที่ 0.1% ของการขายหุ้นที่เกินกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไปต่อเดือน

ทั้งนี้ เดิมมีแผนจะดำเนินการจัดเก็บตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป แต่เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่เอื้ออำนวย ทำให้แผนการจัดเก็บภาษีดังกล่าวล้มเลิกไป อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมการก็ได้ตั้งเป้าหมายว่า การจัดเก็บภาษีดังกล่าวจะสามารถเริ่มได้ในปี 2565 โดยจะดูจังหวะเศรษฐกิจที่เหมาะสม

และทางรัฐจะต้องร่วมกับเอกชน ในการพัฒนาระบบที่จะสามารถตรวจสอบได้ว่า นักลงทุนรายใดที่มีปริมาณการซื้อขายที่เข้าข่ายการเสียภาษีดังกล่าว 

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส วิเคราะห์ว่า  หากรัฐจัดเก็บภาษีขายหุ้นจริงในเบื้องต้นหากคำนวณแล้ว อาจทำรายได้ให้รัฐประมาณ 2 หมื่นล้านบาท

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/ZOUEGVtgT2A