ลุงขุนทอง ศรีชัยยะ รปภ.ใจเด็ด โดนคนร้ายจี้ชิงเงินธนาคารออมสิน สาขาทียูโดม จังหวัดปทุมธานี ใช้มีดแทงเข้าที่คอ แต่ยังฮึดสู้ ติดตามไล่จับคนร้ายจนได้ ก่อนจะเอามีดปักกลางอกทำให้คนร้ายเสียชีวิต ล่าสุด ลุง รปภ.อาการปลอดภัยแล้ว พร้อมเปิดใจวินาทีชีวิต เข้าใจว่าเป็นไรเดอร์ เพราะไม่ถอดหมวกเดินเข้ามา

เหตุการณ์นี้ต้องย้อนกลับไปประมาณบ่าย 2 โมง 17 นาที วานนี้ (2ธ.ค.) คนร้ายใส่เสื้อคลุมแขนยาว สีดำแดง สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ ถือกระเป๋าสีขาวเข้ามาในห้าง จังหวะที่ยืนอยู่ด้านหลัง รปภ.ก็ควักมีดออกมาจากกระเป๋าแล้วตรงเข้าไปล็อคคอ ลุงขุนทอง ที่นั่งอยู่หน้าธนาคารแล้วใช้มีดปาดคอ

ซึ่งลุงขุนทองก็ลุกขึ้นสู้ ยืดยุดกันอยู่พักนึงก่อนจะผละตัวออกมาได้ แต่คนร้ายยังพยายามตามไปแทงต่อ เมื่อถึงหน้าประตูธนาคารออมสิน คนร้ายก็ผละจาก ลุงขุนทองแล้วเข้าไปในธนาคารทันที แล้วตรงเข้าไปที่ด้านหลังเคาน์เตอร์ เพื่อหยิบเงิน ท่ามกลางพนักงานธนาคารที่เห็นเหตุการณ์ต่างวิ่งหนี หาที่ซ่อนเพื่อเอาตัวรอด คนร้ายใช้เวลาก่อเหตุภายในธนาคารไม่ถึง 20 วินาที ก่อนจะวิ่งออกมา

ซึ่งที่หน้าประตูธนาคาร ลุงขุนทองก็ยืนดักรออยู่พร้อมเก้าอี้ พอคนร้ายเปิดประตูออกมา ก็เอาเก้าอี้ฟาดไปที่ศีรษะคนร้าย จนคนร้ายเสียหายหลักล้ม ก่อนจะวิ่งหนีออกไปนอกถนน

จากนั้นก็หลุดเฟรมไป กระทั่งคนร้ายวิ่งออกมาข้างนอก จังหวะนี้เองที่พลเมืองดีหลายสิบคนต่างเข้ามาช่วยกันรุมจับ ซึ่งถ้าฟังเสียงจากคลิปที่คนแถวนั้นถ่ายไว้ได้ เขาจะพูดว่า "คนร้ายจะล้มแล้ว คนร้ายโดนแทงแล้ว ไม่ไหวแล้ว" ก่อนจะล้มลงกับเพื่อน แล้วพลเมืองก็เข้ามาช่วยกันควบคุมตัวไว้ ทรายชื่อต่อมาคือ นาย ปิยะพงษ์ อายุ 28 ปี

พอตำรวจมาถึง ก็พบว่า คนร้ายมีบาดแผลถูกแทงเข้าที่กลางอก 1 แผล ใกล้ตัวเจอมีดยาวประมาณ 20 เซนติเมตร ตกอยู่ 1 เล่ม ห่างไปเล็กน้อยพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นเอ็นแม็กซ์สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ของคนร้ายจอดอยู่

ขณะที่ ลุง รปภ. ก็ได้รับบาดเจ็บนั่งหมดแรงอยู่ใกล้ๆ เช่นกัน มีแผลถูกปาดที่คอด้านขวา อาการสาหัส

ล่าสุดเช้าวันนี้ นาย ขุนทอง รปภ.ใจเด็ดอาการปลอดภัยแล้ว แต่ยังต้องพักรักษาตัวที่ โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี ซึ่งเมื่อช่วงสายวันนี้พลตำรวจตรี ชุมพล ชาญชนะโยธิน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี นำกระเช้ามามอบให้เป็นขวัญกำลังใจ

นาย ขุนทอง เปิดใจเล่าวินาทีเกิดเหตุว่า เก็นคนร้ายเดินเข้ามาตั้งแต่แรก ทีแรกเข้าใจว่าเป็นไรเดอร์ เพราะไม่ถอดหมวกกันน็อค สักพักเอามีดมาปาดคอจึงต่อสู้กัน พอคนร้ายเข้าไปในธนาคาร ก็คิดแค่ว่าต้องยับยั้งคนร้ายให้ได้ โดยใช้เก้าอี้ป้องกันตัวก่อน พร้อมตะโกนขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี ยอมรับว่าในใจตอนนั้นคิดแค่ว่า ต้องทำวิถีทางเพื่อจับกุมคนร้ายให้ได้แม้ต้องตายก็ตาม

ขณะที่นาง อำพร สีโคกกรวด ภรรยาของ นาย ขุนทอง บอกว่า ภูมิใจกับวีรกรรมของสามีในการปฎิบัติหน้าที่ แต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ เพราะค่อนข้างอันตราย แต่เมื่อคุยกันแล้ว สามีก็ยืนยันจะทำอาชีพ รปภ.ต่อไป เนื่องจากมีความสุขที่ได้ทำตรงนี้

ขณะที่บาดแผลของนาย ขุนทอง พบว่ามีรอยปาดที่ลำคอด้านขวา และร่องรอยถูกมีดบาดที่แขน  ส่วน นาย ปิยะพงษ์ คนร้ายที่เสียชีวิตมีแผลถูกแทงเข้าที่อก 1 แผล

ส่วนความคืบหน้าคดีที่ นาย ขุนทอง ใช้มีดแทงอกคนร้ายเสียชีวิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี บอกว่า ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาลุงขุนทอง แต่ก็ให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องคดีไปก่อน จนกว่า ลุงขุนทองจะออกจากโรงพยาบาลและมาให้การ เพื่อประกอบสำนวนได้ จึงจะได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาอีกครั้ง

อีกด้านที่นิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ แม่ ภรรยา และญาติ ๆ ไปติดต่อขอรับศพนายปิยะพงษ์ บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ทันทีที่แม่เห็นศพลูกชาย ก็ร้องไห้เสียใจอย่างหนักจนเป็นลม ญาติ ๆ ต้องช่วยกันพยุงไปนั่งปฐมพยาบาลที่โต๊ะม้าหิน จนอาการดีขึ้น จึงพยุงขึ้นรถเดินทางไปที่วัดคลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สถานที่บำเพ็ญกุศลศพนายปิยะพงศ์

โดยจะมีพิธีสวดพระอภิธรรม 3 คืน ก่อนฌาปนกิจในวันที่ 6 ธันวาคม แม่ของผู้เสียชีวิต บอกเพียงสั้น ๆ ว่า ลูกชายไม่ได้บอกว่าจะไปก่อเหตุ ตนมีลูกชายคนเดียว เป็นเสาหลักของครอบครัว และลูกชายก็มีลูกสาวอายุเพียง 1 ขวบกว่าๆ เท่านั้น

ชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/kb12GWUr5Pw