สาวโพสต์เตือนภัย หนุ่มปริศนาบุกห้องนอนกลางดึก ย่องมานอนข้างๆ แล้วบีบก้น เมื่อดูจากกล้องวงจรปิดพบแอบเข้าห้องคนอื่นมาแล้วหลายห้อง คาดดมกาว เมายา แล้วมาก่อเหตุ

โดยภาพจากกล้องวงจรปิดที่ชั้นล่างของบ้านพักหลังหนึ่งในอำเภอ จังหวัดนครราชสีมา จับภาพชายคนหนึ่งมีพฤติกรรมสุดแปลกบุกมากินของในตู้เย็น แล้วยืนคุยอยู่คนเดียวราว 5 นาที ผู้เสียหายบอกว่า "มันคุยคนเดียว มันหลอนยา"

เธอจึงโพสต์คลิปวงจรปิดและเปิดเผยกับทีมข่าวว่า วันเกิดเหตุคือ 20 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เธอตั้งวงกินเลี้ยงกันที่หน้าบ้าน ที่บ้านบุ่ง ต.หนองไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครราชสีมา พอเมาก็เข้าห้องนอน และนอนหลับพักผ่อนอยู่กับแฟนหนุ่ม แต่ลืมล็อคประตู คนร้ายเลยลอบเข้ามาในห้อง ตอนประมาณตี 5 ซึ่งตอนนั้นเธอนอนหัสหน้าเข้าประตู แฟนนอนฝั่งติดหน้าต่าง คนร้ายมานอนข้างหน้าเธอและใช้มือบีบก้นเธออย่างแรง จนเธอตื่น

และนี่เป็นกล้องอีกมุมหนึ่ง ที่หอพักของเธอที่อยู่ถัดไป พบว่าก่อนที่จะมาก่อเหตุกับเธอ คนร้ายได้เดินเข้าไปในหอพัก ไปส่องตามหน้าต่างบานเกล็ดเพื่อดูพฤติกรรมของผู้พักอาศัยในห้องด้วย ก่อนจะเดินออกไป เมื่อไปสอบถามคนในหอพัก ถึงรู้ว่า คนร้ายได้บุกเข้าไปในห้องเด็กหญิงวัย 10 ขวบ แล้วพยายามทำอนาจารเด็กด้วยการจับอวัยวะเพศ โดยเอามือปิดปากเด็กและข่มขู่

โชคดีที่เด็กหญิงตะโกนเรียกพ่อมาช่วยได้ทัน แต่ไม่ว่าจะใช้ไม้ตี พระพุทธรูปทุ่มใส่ คนร้ายก็ไม่รู้สึก คาดว่าน่าจะเมายาหนัก ขนาดพยายามกระโดดถีบให้ตกบันได โจรยังไม่สะเทือน และยังต่อสู้จนพ่อของเด็กหญิงได้รับบาดเจ็บที่ดวงตา แม้วันนั้นโจรจะออกมา โดยไม่ได้ทำอะไรเด็กหญิงวัย 10 ขวบ แต่พ่อแม่ก็กลัวจนต้องพาเด็กไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว

พอออกจากบ้านเธอยังไปก่อเหตุที่บ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งมีเด็กผู้หญิงเหมือนกัน แต่โชคดีที่ป้าของเด็กตื่นมาทำกับข้าวอยู่ในครัว เจอคนร้ายพอดี

เธอยังบอกด้วยว่า ผ่านมา 2 วันแล้ว แต่จนถึงขณะนี้คนร้ายยังลอยนวล ยังไม่ถูกจับ น่าจะตระเวนอยู่แถวหนองไผ่ล้อม บุ่งคล้า เดชอุดม จังหวัดนครราชสีมา หวั่นจะไปก่อเหตุร้ายกับคนอื่นอีก เธอจึงโพสต์ภาพหน้าคนร้าย และประชาสัมพันธ์หากใครเจอแจ้งตำรวจได้ทันที เพราะตำรวจกำลังหาตัวเช่นกัน

พันตำรวจโท สมยศ นาชิน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความ ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ไปรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุแล้วแต่ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เนื่องจากหลักฐานที่ผู้เสียหายมี เป็นเพียงภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งเห็นใบหน้าไม่ชัดเจน ทั้งนี้ สันนิษฐานว่าผู้ก่อเหตุอาจจะเป็นคนเร่ร่อนและน่าจะไม่ใช่คนแถวนี้ เพราะเท่าที่สอบถามประชาชนในพื้นที่ยังไม่มีใครรู้จักหรือคุ้นหน้าตาของผู้ก่อเหตุ