พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสังคมวิพากษ์วิจารณ์แนวคิดให้นำรถทหารมาใช้ขนส่งสินค้า ว่าเรื่องนี้เป็นเพียงการเตรียมการไว้เท่านั้น ยังไม่ได้นำมาใช้ หากรถบรรทุกหยุดการขนส่ง ก็จำเป็นต้องนำรถทหาร มาช่วยประชาชนและผู้ประกอบการ

ส่วนที่ฝ่ายออกมาระบุว่า การกระทำดังกล่าวถือเข้าข่ายขัด การกระทำผิด พ.ร.บ.ขนส่ง พลเอกประวิตร ระบุว่า ไม่รู้ว่าจะขัดหรือไม่ขัด แต่ก็ต้องช่วยประชาชนไว้ก่อน และยืนยัน นายกฯคิดแล้วถึงทำ

ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แนวคิดนี้ของนายกฯ เป็นเหมือนการนำรถของกองทัพไปบรรเทาสาธารณภัย ช่วยเหลือประชาชน ตอนเกิดน้ำท่วม หรือไปใช้อพยพประชาชน ไม่ใช่การนำไปประกอบกิจการแข่งกับเอกชนเเต่อย่างใด

ซึ่งการนำไปช่วยเหลือประชาชนสามารถทำได้และเคยทำมาหลายครั้งแล้วในทุกรัฐบาล ทั้งนี้แนวคิดดังกล่าว เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีเปรยขึ้นมาว่าถ้าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถ เจรจากับผู้ประกอบการรถขนส่งได้ก็ให้จราจรต่อไป แต่ถ้าพวกผู้ประกอบการเหล่านั้นหยุดเดินรถขึ้นมาทันทีรัฐบาลก็ต้องรับผิดชอบต่อความเดือดร้อนหรือความเสียหายที่เกิดกับประชาชน

เมื่อถามย้ำว่าแนวคิดดังกล่าวถือว่าไม่ทำผิดอะไรใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ใช่ครับ”

ขณะที่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ชี้แจงถึงกรณี ที่ฝ่ายค้าน มองว่า การจัดรถบรรทุกกว่า 3,700 คัน เพื่อทดแทนหากกลุ่มรถบรรทุก นัดหยุดวิ่งประท้วง ไม่ตรงกับภารกิจ และหากนำมาจอด 3,700 คัน แสดงว่า ที่ผ่านมาไม่ได้ใช้ประโยชน์ว่า

ในข้อเท็จจริง กองทัพบกเพียงแต่นำรถเหล่านี้ มาเช็คสภาพ ตรวจความพร้อม เพราะรัฐบาลไม่ได้ใช้ทหารเพียงหน่วยเดียว ยังมีกระทรวงอื่นด้วย ขึ้นอยู่กับแผนงานของรัฐบาล หากได้รับมอบภารกิจ ยืนยันว่า รถปัจจุบัน ยังคงใช้งานในหลายภารกิจ เช่น ขนส่งคนไปฉีดวัคซีน งานจิตอาสา ทั้งขนของไปช่วยน้ำท่วม ช่วยภัยหนาว

ทั้งนี้มองว่า การช่วยเหลือประชาชน ภารกิจของทุกคน เมื่อประชาชนเดือดร้อนรัฐบาล จึงต้องเตรียมการทุกภาคส่วน เพื่อให้ชาวบ้าน ไม่ได้รับผลกระทบ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/Sag9wRwLJcg