จากกรณีนายนิรันด์ (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ผู้เป็นพ่อ ได้ไลฟ์เฟซบุ๊กเหตุการณ์อุ้มลูกเด็กหญิงวัย 3 ขวบ แขวนคอกับเชือกผูกติดกับขื่อบ้าน เพื่อประชดภรรยาที่ตีตัวออกห่าง ซึ่งในเวลาต่อมามีการช่วยเหลือจนเด็กปลอดภัย

ต่อมาสามารถควบคุมตัวนายนิรันด์ ได้พบตัวลูกสาววัย 3 ขวบอยู่ด้วย ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้ากรุงเทพฯ มาสอบปากคำที่ สน.บางมด

นางผกาแก้ว ภรรยาผู้ก่อเหตุและแม่ของเด็ก เผยว่า สาเหตุที่สามีก่อเหตุเนื่องจากหึงหวงตนเอง โดยคิดว่าตนนอกใจอยู่ตลอดเวลาอย่างไม่มีเหตุผล และทำร้ายร่างกายตนเองบ่อยครั้ง 3 ตนจึงตัดสินใจตีตัวออกห่าง และออกจากบ้านมาได้ 2 เดือนแล้ว ทำให้สามีไม่พอใจ และประชดโดยการไปรับลูกสาวที่อยู่ในความดูแลของครูในโรงเรียนประจำ ที่ปกติจะกินนอนอยู่ที่นั่น ก่อนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

สามีเคยมีพฤติกรรมเช่นนี้มาก่อนแต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้ทำให้เห็น จึงไม่คิดว่าสามีจะทำกับลูกรุนแรงถึงขนาดนี้ ส่วนตัวจะรับลูกสาวโดยขออำนาจในการรับเลี้ยงดูลูกไว้เอง

พลตำรวจตรีมานพ สุคธ์ธนพัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 8 ระบุว่า ได้รับรายงานข้อมูลเรื่องดังกล่าวจากโซเชียล จึงได้ให้ฝ่าสืบสวนลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบแหน่งที่เกิดเหตุ จนกระทั่งฝ่ายสืบสวน บก.น.8 และฝ่ายสืบสวน สน.บางมด ตรวจสอบจบพบบ้านที่เกิดเหตุ เมื่อเข้าตรวจสอบไม่พบผู้ก่อเหตุ และลูกสาว พบเพียงเชือกที่ใช้ผูกคอตามคลิป

ต่อมาทราบว่าผู้ก่อเหตุจะเดินทางไปบ้านญาติในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ด้วยรถยนต์ส่วนตัว จึงได้ประสานไปยังตำรวจท้องที่ และตำรวจทางหลวง ให้ตั้งด้านสกัดจับรถยนต์ทะเบียนดังกล่าว จนสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ได้ที่ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เด็กปลอดภัยดี และนำตัวไปอยู่ในความดูแลของแม่ และ พม. ส่วนผู้ก่อเหตุ หรือพ่อของเด็กเบื้องต้นจะดำเนินคดีในข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งจะ ให้พนักงานสอบสวนพิจารณาจากคลิปที่เผยแพร่ออกไปว่าจะมีข้อหาอื่นอีกหรือไม่

ด้านนางผกาแก้ว แม่ของเด็ก เปิดเผยระหว่างแถลงข่าวว่า แยกย้ายกับผู้ก่อเหตุได้ 2-3 เดือนแล้ว เนื่องจากผู้ก่อเหตุระแวงว่าตนไปมีคนอื่น ซึ่งจริง ๆ แล้วตนไม่ได้มีใคร ตั้งแต่เลิกลากันตัวผู้ก่อเหตุก็เคยกระทำการในลักษณะนี้มาแล้วถึงครั้งที่ 3 โดยอ้างเหตุผลว่าอยากให้กลับไปอยู่ด้วยกัน เป็นครอบครัว แต่ตนคิดว่าที่ผู้ก่อเหตุทำแบบนี้เพราะแค่ต้องการเอาชนะตนเท่านั้น

ส่วนสาเหตุที่ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ได้แจ้งความเพราะอยากให้โอกาสกลับตัว และกลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม ซึ่งหลังจากนี้คงไม่มีทางกลับไปอยู่ด้วยกันอีกแล้ว และดีใจมากที่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยลูกสาวได้ทันท่วงที

ตนได้ย้ายไปอยู่บ้านแม่ โดยสามีได้ถ่ายคลิปขู่ แต่ครั้งนี้แแม่ของตนบอกถ้ากลับมาอีก สามีจะได้ใจ จนเกิดเป็นข่าว ยืนยันว่าตนไม่ได้ทอดทิ้งลูก ที่ผ่านมาพยายามเอาลูกไปอยู่ด้วยแต่ไม่สำเร็จ เห็นแก่ลูกเลยอยากให้โอกาส หลังจากนี้ตนเองจะแยกทางกับสามีและเอาลูกไปดูแลเอง ตอนนี้มีความกังวลว่า สามีจะทำร้ายลูกและห่วงความรู้สึกของลูก

เวลาประมาณ 15.00 ของวานนี้ (8 พย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางมด ได้คุมตัวนายนิรันด์ ออกจาก ห้องสอบสวน โดยนายนิรันด์ ตอบคำถามสื่อเชิงปฏิเสธว่า "ผมไม่ได้ทำครับผม ผมรักลูกผม” ผู้สื่อข่าวถามว่าจับลูกจะแขวนคอต้องการประชดไม่คิดว่าลูกจะเจ็บเหรอ นายนิรันด์ ตอบว่า “ไม่เจ็บผมอุ้มลูกไว้ ผมรักลูก ผมไม่อยากทำ เมียผมหนีไปครับผม ผมรักลูกกับเมียผมครับ"

ทีมข่าวลงพื้นที่ไปห้องเช่าที่เกิดเหตุ พบกับปู่ของภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า หลานเขยชอบทำร้าย หลานสาวบ่อยครั้ง เพราะหึงหวงกลัวว่าหลานสาวจะมีผู้ชายอื่น ทำให้หลานสาวจะทนไม่ไหวแยกออกไปอยู่ตามลำพังเองประมาณ 1-2 เดือน หลังจากนั้นทำให้หลานเขยยิ่งระแวงหลานสาว และมีอาการหึงหวงมากขึ้นกว่าเดิม รวมถึงชอบโทรศัพท์ไปก่อกวนและข่มขู่หลานสาว โดยใช้เหลนวัย 3 ขวบ เป็นตัวประกัน เพื่อต่อรองให้หลานสาวตนเองกลับมาอยู่ที่บ้านตามเดิม

ผู้สื่อข่าวได้คุยกับเพื่อนของนางผกาแก้ว เผยว่า นายนิรันด์เล่าให้ตนฟังว่า ภรรยาขอเลิก แต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิก แต่ตนยังเห็นทั้งคู่คุยกันตามปกติ ฝ่ายหญิงบอกกับฝ่ายชายว่าจะกลับมา ฝ่ายชายรอมา 2-3 เดือนแล้ว ฝ่ายหญิงก็ไม่กลับมาสักที เหมือนหลอกให้อยู่เฉย ๆ

เดิมทั้งสองคนและลูกอาศัยอยู่ในห้องห้องเช่าด้วยกัน หลังจากมีปัญหาเพราะฝ่ายชายจับได้ว่าภรรยามีคนอื่น ฝ่ายหญิงก็หนีไปอยู่ที่อื่น นาน ๆ ทีจะกลับมาที่บ้าน ฝ่ายหญิงไม่ค่อยดูแลลูก ห่วงตัวเองมากกว่า โกหกว่าจะกลับมาอยู่กับสามี แต่ไปเช่าห้องอยู่กับผู้ชายคนอื่น

“ฝ่ายชายเป็นคนดี ทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว ฝ่ายหญิงมีคนอื่นพอสามีจับได้จึงทะเลาะกัน ฝ่ายหญิงก็ทิ้งลูกไป ฝ่ายชายรักภรรยามากไม่อยากให้ไปไหน อยากให้อยู่ด้วยกัน ฝ่ายชายน้อยใจเคยพูดว่าถ้ากูจับได้ว่ามึงมีชู้ กูจะฆ่าลูกและฆ่าตัวเองตายตาม” ตนจึงถามภรรยาของนายนิรันด์ ว่า “ไม่สงสารลูกเหรอถ้าเขาฆ่า” ฝ่ายหญิงตอบกลับว่า “ถ้ามันอยากฆ่าลูกมันให้ตายก็ปล่อยให้ตายไปเลย กูคิดว่าลูกมันทำบุญมาแค่นี้”

นายนิรันด์ รักลูกมากยอมทำทุกอย่าง ทำงานหาเงิน เหตุที่เกิดขึ้นตนคิดว่านายนิรันด์ แค่พูดขู่ให้เมียกลับมา ไม่คิดว่าจะทำจริง พอเห็นข่าวก็สงสารเด็ก นายนิรันด์ ทำประชดเกินไปโชคดีของเด็กที่ไม่เป็นอะไร เขาแค่เอาเด็กมาเป็นเครี่องมือแต่มันไม่ได้ช่วยอะไร ทำไปก็ไม่มีประโยชน์ยังไงภรรยาก็ไม่กลับมาอยู่แล้ว อยากให้ฝ่ายชายรักลูกมากกว่า ถ้าเลี้ยงไม่ไหวก็ให้คนที่บ้านเลี้ยง ไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/rxh_xyRfPYs