เรื่องที่กำลังเป็นที่พูดถึงกัน จากการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาราคาผักชีแพง และก็มีรายงานออกมาว่านายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ใช้พื้นที่ของทหารปลูกผักชีแก้ปัญหา แบ่งเบาภาระประชาชน

เรื่องนี้สืบเนื่องจากปัญหาผักชี ราคาพู่งสูงถึงกิโลกรัมละ 400 บาท จนกระทบกับประชาชนที่ต้องใช้ผักชีประกอบอาหาร และมีการเรียกร้องให้หน่วยงานเร่งแก้ไขปัญหา ทำให้นายกรัฐมนตรีแสดงความกังวล และสั่งการให้นำพื้นที่ของทหารมาปลูกผักชี เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น

หลังเป็นข่าวออกไป ก็กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ หลายคนตั้งคำถามว่านี่เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาที่ ถูกต้องตรงจุดแล้วหรือไม่ บางคนเสนอว่า ถ้าจะแก้ปัญหาที่ปลายเหตุแล้ว ทำไมไม่ใช้วิธีการแจกเมล็ดพันธุ์ให้ประชาชนไปปลูก

ขณะที่บางคนก็มองว่า วิธีนี้กว่าผักชีจะงอกราคาก็คงจะตกต่ำพอดี เหตุใดไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ หรือสร้างมาตรการควบคุมราคาเพื่อไม่ให้ประชาชน ได้รับผลกระทบ

ด้านโฆษกพรรคก้าวไกล นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ มองว่า การแก้ไขปัญหาของท่านนายกฯ เหมือนเป็นการพูดผ่านไปวันๆ ไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนได้จริง

เรื่องนี้ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจง ว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นเพียงคำปรารภส่วนหนึ่งของนายกรัฐมนตรี แต่มีความพยายามบิดเบือนเจตนาของท่านนายกฯ

ทั้งที่ จริงๆ แล้วท่านนายกฯ มีเจตนาที่ดี และสั่งการให้ทุกส่วนราชการ ใช้ทรัพยากรของตนเองที่มีอยู่ช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ ควบคู่กับการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งแก้ไขปัญหาเรื่องราคา

เราได้รวบรวมไอเดียการแก้ปัญหาราคาการเกษตร ของนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมา มีหลากหลายไอเดียที่เคยเป็นประเด็นมาก่อนหน้านี้ อย่างช่วงที่มีปัญหาราคามะนาวแพง ถ้าจำกันได้ตอนนั้น ท่านนายกฯ ก็แนะนำให้ประชาชนปลูกมะนาวไว้ทานเองที่บ้าน จะได้ไม่ต้องไปซื้อมะนาวตามท้องตลาดที่ราคาสูง

หรืออย่างช่วงที่ชาวนาประสบภัยแล้งเมื่อปี 2558 ท่านนายกฯก็เสนอให้ หันไป ปลูกหมามุ่ยแทน เพราะกำลังเป็นที่นิยมและค่อนข้างมีราคา

หรืออย่างกรณี ปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ท่านนายกฯ ก็เสนอให้ปลูกพืชชนิดอื่นผสม อย่างสตรอว์เบอร์รี่, กล้วยหอม, มังคุด และ ทุเรียน จนมากรณีล่าสุดปัญหาให้ทหารช่วยปลูกผักชี แก้ปัญหาผักชีราคาแพง