10 เขื่อนมีน้ำเกินความจุ พื้นที่ลุ่มน้ำท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบ ทั้งลุ่มเจ้าพระยาตอนบน จนถึง กทม. และสมุทรปราการ หรือเขื่อนในภาคอีสาน ส่งผลกับหลายจังหวัด

ช่วงเช้าวันนี้ (19 ต.ค.) กรมชลประทาน สรุปว่ามีเขื่อนขนาดใหญ่มีน้ำเต็มความจุอ่าง 9 แห่ง จากอิทธิพลพายุ 3 ลูก คือเตี้ยนหมู่-ไลออนร็อก-คมปาซุ เขื่อนขนาดใหญ่ 9 แห่งได้แก่ เขื่อนหนองปลาไหล 109% , เขื่อนนฤบดินทรจินดา 107% , เขื่อนทับเสลา 105 % , เขื่อนกระเสียว 104 % , เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 104% , เขื่อนแม่มอก มีน้ำ 103% , เขื่อนมูลบน 101% , เขื่อนลำพระเพลิง 100% , เขื่อนขุนด่านปราการชล 100% กระทั่งในช่วงเย็น มีเขื่อนที่น้ำเกินความจุเพิ่มอีกแห่งคือ เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เป็น 10 แห่ง

กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ได้คาดการณ์ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากแม่น้ำปิง ในช่วงวันที่ 23 - 30 ตุลาคม ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบัน ประมาณ 20-40 เซ็นติเมตร จึงขอให้ชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา 11 ชุมชน 239 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขตของ กทม. ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ กทม. ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำ โดยตรวจสอบความแข็งแรงและจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่สะพานพระราม 7 จนถึงบางนา ความยาวประมาณ 78.93 กิโลเมตร และเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวรและบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำตามจุดต่างๆ 14 จุด รวมระยะทาง 2,512 เมตร พร้อมทั้งตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 97 สถานี และบ่อสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่งในช่วงน้ำทะเลหนุน

นอกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบในลุ่มเจ้าพระยาแล้ว ในพื้นที่ภาคอีสาน ก็ได้รับผลกระทบหลายจังหวัด เริ่มจากนครราชสีมา น้ำได้เอ่อเข้าท่วมถนนมิตรภาพ บายพาสเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ฝั่งขาออกตัวเมืองนครราชสีมาเข้าจังหวัดขอนแก่น บริเวณฝั่งตรงข้ามห้างสรรพสินค้าโฮมโปร ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร เป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กิโลเมตร รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้

น้ำบางส่วนยังไหลเข้าใกล้ฟาร์มจระเข้ขนาดใหญ่ เป็นฟาร์มแบบปิด เลี้ยงจระเข้อยู่มากกว่า 1,000 ตัว ซึ่งขณะนี้แม้ว่าระดับน้ำจะยังไม่ท่วมถึงบ่อจระเข้ แต่เจ้าของฟาร์มก็ได้เตรียมแผนอพยพจระเข้ไปไว้ที่สูงเพื่อความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้จระเข้หลุดลงสู่ลำน้ำธรรมชาติ

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้เรียกประชุมวางแผนรับมือสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำลำตะคองที่ไหลผ่านเขตพื้นที่อำเภอเมืองนครราชสีมา หลังจากขณะนี้ปริมาณน้ำในลำน้ำลำตะคองที่ไหลผ่านตัวเมืองมีปริมาณที่สูงขึ้น โดยคาดว่ามวลน้ำส่วนใหญ่จะไหลมาถึงเขตตัวเมืองนครราชสีมาในวันพรุ่งนี้

ทางจังหวัดจึงต้องวางแผนรับมือกับมวลน้ำดังกล่าว โดยเฉพาะการป้องกันน้ำท่วมในเขตโรงพยาบาลซึ่งมีอยู่ 3 แห่งที่ตั้งอยู่ติดกับลำน้ำลำตะคอง ได้แก่ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ และโรงพยาบาลเซนต์เมรี่นครราชสีมา โดยขณะนี้ได้มีการป้องกันวางแนวกระสอบทรายตลอดแนวของโรงพยาบาล รวมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ และขนย้ายสิ่งของอุปกรณ์ทางการแพทย์ขึ้นที่สูง เพื่อป้องกันสถานการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้น

ที่ชัยภูมิ ที่อำเภอภูเขียว และอำเภอเกษตรสมบรูณ์ เริ่มคลี่คลายลง แต่ในส่วนของเขื่อนโนนเขวา ตำบลกุดเลาะอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ที่รับน้ำมาจากเขื่อนห้วยกุ่ม เจ้าหน้าที่ยังคงติดธงแดง ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่า ระดับน้ำที่ไหลผ่านสปริลเวย์ยังมีความรุนแรง และอาจจะเกิดอันตราย ในและนอกเขตเทศบาลอำเภอเกษตรสมบูรณ์ ยังคงพบว่ามีปริมาณน้ำ ที่ท่วมขังอยู่จำนวนมาก เจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ยังคงจัดกำลังเจ้าหน้าที่เข้าไปอำนวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชน

ส่วนที่ขอนแก่น หลังจากที่เขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำกักเก็บ 2,431 ล้านลูกบาศก์เมตร เต็มความจุอ่าง และมีแนวโน้มที่มวลน้ำจะไหลเข้าเขื่อนอีกปริมาณมาก ทำให้ในเช้าวันนี้ เขื่อนอุบลรัตน์ได้เปิดสปิลเวย์เพื่อเพิ่มการระบาย โดยวันนี้เริ่มปรับเพิ่มการระบายน้ำจาก 15 เป็นวันละ 18 ล้านลูกบาศก์เมตร

และวันพรุ่งนี้ (20 ต.คง) จะปรับเพิ่มเป็น 20 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีแนวโน้มต้องปรับการระบายเพิ่ม ให้สอดคล้องกับน้ำที่เข้าเขื่อนจำนวนมาก จึงเตือนประชาชนลุ่มลำน้ำพองได้ติดตามข่าวสารที่ทางเขื่อนอุบลรัตน์ จะได้แจ้งไปยังผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นได้ทราบสถานการณ์น้ำทุกวัน