วันนี้ (14 ต.ค. 64) พลตำรวจโทจิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ แถลง การจับกุม นางสาวเอ (นามสมมุติ) อายุ 54 ปี ผู้ต้องหากระทำคสามผิดฐาน สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์และผู้ที่สมคบกันกระทำความผิดคนหนึ่งคนใดได้ลงมือกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามที่ได้สมคบกัน, ร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ด้วยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการค้าประเวณี

ร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือชักพาไปซึ่งบุคคลใดเพื่อให้บุคคลนั้นกระทำการค้าประเวณี โดยใช้อุบายหลอกลวง ไม่ว่าการกระทำต่าง ๆ อันประกอบเป็นความผิดนั้น จะได้กระทำภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยว กักขังกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกายหรือขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ เพื่อข่มขืนใจให้ผู้อื่นนั้นกระทำการค้าประเวณี

เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่นร่วมกันเป็นธุระจัดหา ล่อไปหรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งหญิงโดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่นหรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา

ซึ่งพลตำรวจโทจิรภพ ระบุว่าทางกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางได้รับการประสานจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่ามีผู้เสียหายติดต่อขอความช่วยเหลือว่าถูกหลอกให้ไปค้ามนุษย์ ที่ประเทศบาห์เรน หลังโดนหลอกล่อชักชวนว่าให้ไปทำนวดสปา แลกกับรายได้ประมาณ 5 - 7 หมื่นบาท ต่อเดือน

เมื่อผู้เสียหายตกลงยอมเดินทางไปก็จะมีทีมงานมาช่วยทำเอกสารและเมื่อเดินทางไปถึงประเทศบาห์เรน ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็จะมีเครือข่ายที่อยู่ฝั่งทางประเทศบาห์เรนเป็นคนรับและยึดเอกสารของผู้เสียหายทั้งหมดพร้อมทั้งอ้างว่าผู้เสียหายเป็นหนี้เกี่ยวกับการเดินทางมาทำงานที่ประเทศบาห์เรน ต้องทำงานชดใช้และเริ่มบังคับให้มีการค้าประเวณี

ซึ่งตอนแรกผู้เสียหายไม่ยินยอมแต่ถูกบังคับข่มขู่จนต้องให้ความร่วมมือ ก่อนที่ต่อมาจะมีการพยายามติดต่อไปยังมูลนิธิประวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีเพื่อขอความช่วยเหลือ ก่อนที่ทางมูนิธิประวีณาจะมีการส่งข้อมูลมายังหน่วยงานตำรวจและกรมการกงสุลเพื่อเข้าช่วยเหลือ แนวทางการสืบสวนจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่าเครือข่ายดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้องหรือให้ความช่วยเหลือ

จากการสืบยังพบว่าเครือข่ายดังกล่าวยังมีการหลอกลวงหญิงสาวส่งไปยังประเทศอื่นอีก แต่ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน แต่ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ประเทศในโซนตะวันออกกลาง

สำหรับพฤติกรรมการแบ่งรับรายได้ของทางเครือข่ายกับผู้เสียหาย โดยจะมีการเก็บเงินผู้ใช้บริการและแบ่งเป็นเงินให้กับผู้เสียหาย ซึ่งทางเครือข่ายเป็นผู้ดำเนินการซึ่งมีการแบ่งรายได้กันอยู่ที่คนละครึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อตรวจสอบ เส้นทางทางการเงินของเครือข่ายนี้ว่าเชื่อมโยงกับผู้ใดหรือไม่ หากพบว่ามีการเชื่อมโยงกับบุคคลอื่นหรือเจ้าหน้าที่รับที่เกี่ยวข้องก็จะดำเนินการติดตามจับกุมมาดำเนินคดี

เบื้องต้นจากการสอบปากคำผู้ต้องหายังคงให้การภาคเสธ โดยอ้างว่ารู้จักกับผู้เสียหายจริงและมีการชักชวนให้ไปทำสถานสปาที่ประเทศบาห์เรนจริงแต่ปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้หลอกลวงไปค้าประเวณีและไม่รู้จักกับเครือข่ายที่อยู่ฝั่งประเทศบาห์เรน

พร้อมยอมรับว่าส่วนตัวเคยมีการโพสต์ข้อความด่าทอกับผู้เสียหายแต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์อย่างแน่นอน ซึ่งในส่วนนี้ตำรวจ อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีกห้ารายที่ขนาดนี้ยังหลบหนีอยู่ในประเทศบาห์เรนมาดำเนินคดีต่อไป