น้ำชีกำลังหลากท่วมในเขตจังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเริ่มต้นจุดแรกที่อำเภอโกสุมพิสัย ที่กำลังอพยพทรัพย์สินไปที่ปลอดภัย ขณะเดียวกัน ก็ยังมีน้ำปริมาณคงค้างในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น สร้างความเสียหายต่อพื้นที่เกษตร โดยเฉพาะข้าวนาปี ที่ทำนาได้ปีละครั้ง ปีนี้เสียหายสิ้นเชิง

วัดกู่แก้วสามัคคี บ้านหัวสระ อำเภอเมือง ขอนแก่น ตกอยู่ใจกลางน้ำ จากแก่งน้ำต้อนที่หลากเข้าท่วมจะครบ 1 สัปดาห์ และจำเป็นที่หลังจากนี้ สำนักงานศิลปากรในพื้นที่จะเข้าสำรวจความเสียหายและผลกระทบ

ที่วัดกู่แก้วสามัคคียังมีสถานประจำโรงพยาบาล ที่เรียกว่า"อโรคยาศาล" สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 18 เมื่อครั้งพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรขอม เรืองอำนาจ และแผ่อิทธิพลมาถึงที่นี่ ตอนนี้ทั้งปราสาทของอโรคยาศาล ทั้งด้านนอกด้านใน ถูกน้ำท่วมเต็มพื้นที่

เช่นเดียวกับกุฏิ ฌาปนสถาน พระอุโบสถที่กำลังสร้าง หรือแม้แต่เอกสาร ห้องสำนักงานของเจ้าพระเจ้าคณะตำบลดอนช้าง ก็ถูกน้ำท่วมเสียหายทั้งหมด พระภิกษุ 4 รูปของวัด ต้องอพยพไปจำพรรษาวัดอื่น จะกลับมาที่นี่ก็เฉพาะช่วงกลางวัน เพื่อเฝ้าและสำรวจความเสียหาย

ชุมชนบ้านหัวสระ ที่อยู่กับวัดกู่แก้ว มีอาชีพทำเกษตรกรรม โดยอาศัยน้ำฝนเพื่อทำนา เพราะไม่มีระบบชลประทานมาถึง ความหวังในนาข้าวเพื่อปลูกกินจึงหวังได้ปีละครั้ง เมื่อน้ำหลากท่วมรุนแรง เท่ากับปีนี้ข้าวเสียหายทั้งหมด

ชุมชนที่ดอนในหลายอำเภอของจังหวัดขอนแก่น ถูกน้ำท่วมสูงเร็ว และเมื่อน้ำลง ก็ไม่สามารถกักเก็บน้ำไว้ได้

ข้อมูลจากกรมชลประทานสำรวจเบื้องต้นพบว่าน้ำท่วมครั้งนี้ ที่ชัยภูมิมีพื้นที่เสียหาย 16 อำเภอ รวม 228 840 ไร่ ขณะที่ขอนแก่น 11 อำเภอ จำนวน105,953 ไร่ พื้นที่ส่วนใหญ่ อยู่นอกเขตชลประทานที่อยู่ติดลำน้ำชี ส่วนพื้นที่ในเขตชลประทานที่ถูกน้ำท่วมคือลุ่มน้ำพรม แต่ก็ไม่มีความเสียหายสิ้นเชิง

ขณะที่มวลน้ำก้อนใหญ่ ยังคงหลากท่วมสร้างความเสียหายหลายพื้นที่ของขอนแก่น ตอนนี้น้ำชีที่หลากไปส่วนหน้า เคลื่อนตัวสู่จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นพื้นที่ต่อเนื่องตามลำน้ำชี

พื้นที่ซึ่งต้องอพยพเร่งด่วนวันนี้อยู่ที่บ้านปลาปัดหมู่ 3 ตำบลยางท่าแจ้ง อ.โกสุมพิสัย ที่ต้องออกตั้งเต้นท์หน้าหมู่บ้าน เพราะหมู่บ้านนี้ อยู่นอกแนวพนังกั้นน้ำ ทำให้น้ำท่วม 1 เมตรแล้ว และยังเพิ่มไม่หยุด ตอนนี้ บ้านเรือน 125 ครอบครัว

บ้านปลาปัด ซึ่งมีลูกบ้าน 458 คน พร้อมนาข้าว 169 ไร่ ถูกน้ำท่วมทั้งหมด และที่ทำได้ตอนนี้คืออพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย