นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงการฉีดวัคซีนไฟเซอร์สำหรับนักเรียนอายุ 12-17 ปี เพื่อรองรับการเปิดเรียนอย่างปลอดภัยว่า

ขณะนี้ประเทศไทยมีเพียงวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้ฉีดในกลุ่มอายุดังกล่าวได้ โดยผู้ปกครองแสดงความประสงค์ให้บุตรหลานฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น รวมประมาณ 3.8 ล้านคน หรือเกือบร้อยละ 80

ล่าสุดมีวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส เมื่อตรวจรับรองรุ่นการผลิตเรียบร้อยจะดำเนินการกระจายวัคซีนไปยังพื้นที่ทันที และสัปดาห์หน้าวันที่ 13 ตุลาคม 2564 ก็จะมีเข้ามาอีก 1.5 ล้านโดส ดังนั้น ช่วง 2 สัปดาห์ต่อจากนี้จะสามารถกระจายวัคซีนเพื่อฉีดให้แก่นักเรียนได้ครบตามที่แจ้งความประสงค์ไว้

อย่างไรก็ตาม ในโลกออนไลน์ มีการวิจารณ์ถึงการฉีดวัคซีนสำหรับเด็กและนักเรียน จนทำให้ #ไฟเซอร์นักเรียน พุ่งติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประเทศไทย

โดยมีกลุ่มนิสิต นักศึกษา ตั้งคำถามว่า ทำไมได้รับวัคซีนแค่ซิโนแวค และ แอสตราเซเนกา เท่านั้น ซึ่งมองว่าไฟเซอร์ควรเป็นสิทธิของทุกคนที่จะได้รับ ไม่ใช่เฉพาะเด็ก

นอกจากนี้ มีนักเรียนมัธยมบางราย ได้นำเอาแชทข้อความในห้องเรียนมาเปิดเผย ว่าครูให้ถอนสิทธิฉีดไฟเซอร์ เนื่องจากถูกตัดโควต้าให้ลดลง และมีเด็กหลายคนไม่กล้าฉีดไฟเซอร์ เนื่องจากกลัวผลข้างเคียง จากกระแสข่าวเฟคนิวส์ และพูดถึงข้อเสียของการฉีดไฟเซอร์ตลอดมา จนกระทั่งผู้ปกครองไม่กล้าให้ลูกฉีด

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/iKnxAwkWwzw