จังหวัดสิงห์บุรี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ถูกนำท่วมอย่างหนัก โดยเฉพาะพื้นที่อำเภอเมือง อำเภออินทร์บุรี และอำเภอพรหมบุรี ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลจากการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบ

เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลโรงช้าง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยชาวบ้านจำนวน 265 หลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน ถูกน้ำท่วมทั้งหมู่บ้านเพราะอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงโรงเรียนพระกุมารเยซู สิงห์บุรี ก็ถูกน้ำท่วมด้วย บริเวณถนนหน้าโรงเรียนฯ ได้นำดินมาทำเป็นแนวกั้นน้ำไว้ แต่เอาไม่อยู่

สาเหตุที่น้ำเอ่อล้นท่วมชุมชนแห่งนี้ เนื่องจากปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกวัน น้ำไหลเข้ากัดเซาะพนังเขื่อนกั้นน้ำที่ยังสร้างไม่เสร็จที่มีระยะทางยาว 89 เมตร ทำให้กำแพงรั้วบ้านพังลงไปกับน้ำ และน้ำได้ไหลทะลักเข้าในตัวบ้าน ทำให้บ้านเรือนที่อยู่ริมแม่น้ำหลายสิบหลังคาเรือนได้รับความเดือดร้อนมาก เกรงว่าบ้านจะพังลงน้ำไปด้วย

ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบชาวบ้านยืนโวยวายอยู่ข้างถนน จึงเดินไปสอบถามทราบว่า ไม่พอใจที่ทาง อบต.โรงช้าง นำดินมาถมกั้นทางไหลของน้ำ ไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วม อบต. ที่อยู่ห่างจากจุดที่ถมดินประมาณหนึ่งกิโลครึ่ง ชาวบ้านต้องจัดให้น้ำไหลผ่านตามธรรมชาติ เพราะหากนำดินมาเทปิดกั้นทางน้ำไว้ น้ำที่ขังก็จะไม่ระบายออกจากชุมชน

ชาวบ้านรายหนึ่ง ระบุว่า อบต.ไม่เคยมาสอบถามหรือปรึกษาชาวบ้าน หากเอาดินมากั้นน้ำมันจะไหลได้อย่างไร ตนก็ต้องการระบายน้ำออกจากพื้นที่ชุมชน เพราะทนอยู่กับน้ำท่วมขังมานานเกือบ 10 วันแล้ว

“น้ำจะท่วมถึงชั้นสองของบ้านอยู่แล้ว ยังไงก็ต้องระบายออกจากพื้นที่ชุมชนบ้าง จะนำดินมากั้นไว้อย่างนี้ไม่ได้ ไม่อย่างนั้นชาวบ้านจะเดือดร้อนมากกว่านี้”

ชาวบ้านอีกราย บอกว่า ชาวบ้านไม่มีใครรู้เรื่องด้วย ทำไม อบต.ไม่คิดว่าชาวบ้านจะเดือดร้อน แต่ อบต.พยายามเอาดินมากั้นไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วม อบต. ทำกันเอง จัดการกันเอง โดยไม่บอกชาวบ้าน ทำอย่างนี้หมายความว่ายังไง ก่อนที่ทาง อบต.จะนำรถมาไถกลบดิน เปิดทางให้น้ำไหลผ่านตามปกติ

ขณะที่ชาวบ้านหลายคนทั้งตำบลโรงช้าง ตำบลพระงาม พากันอพยพมานอนในเต็นท์หุงหาอาหารอยู่ริมถนน โดยขนย้ายสิ่งของ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โอ่งน้ำ หนีน้ำมาไว้ภายในเต็นท์ด้วย ชาวบ้านบางคนนอนในรถ บางคนนำผ้าใบมาทำเป็นเพิงพักนอนอยู่ข้างทาง

อย่างครองครัวของนางเปราะ คำสร้อย อายุ74 ปี หอบที่นอน หมอน มุ้ง พากันมาอาศัยอยู่ตามศาลาริมทางของกรมทางหลวง ชั่วคราว และยายแพะ 60-70 ตัว หนีน้ำมาเลี้ยงอยู่บนถนนด้วย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/nMd0QWtlNtM