สิงห์บุรี ชาวบ้านถูกน้ำท่วมยังเดือดร้อนหนัก ขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง ตั้งเต็นท์นอนบนถนน เผยใช้ชีวิตยากลำบาก แต่พออยู่ได้ ภาวนาขอให้น้ำลดเร็ว ๆ

สำรวจความเสียหายโรงเรียนประจำสำหรับเด็กที่ราบสูง พื้นที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตร เด็กขาดแคลนน้ำดื่ม ข้าวสาร วัตถุดิบทำอาหาร ครูตั้งเต็นท์ขอรับบริจาค น้ำใจหลั่งไหลให้การช่วยเหลือ

วันที่ 2 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บ้านน้ำตาล หมู่ 8 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ชาวบ้าน 100 กว่าหลังคาเรือน ได้รับความเดือดร้อน หลังแม่น้ำเจ้าพระยาล้นท่วมหมู่บ้าน บางคนไม่สามารถอาศัยอยู่ในบ้านได้ จึงต้องมานอนอยู่ในเต็นท์บนถนน หน่วยงานในพื้นที่ตั้งเต็นท์ไว้สำหรับเป็นจุดอพยพ

มีรถห้องน้ำเคลื่อนที่ และถังน้ำดื่มน้ำใช้ที่ อบจ.สิงห์บุรี นำมาตั้งไว้ให้ พร้อมทั้งตั้งเต็นท์อำนวยการแจกของบริจาคให้กับชาวบ้านที่ประสบอุทกภัย ชาวบ้านได้ขนย้ายสิ่งของ เช่น เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้า ที่นอนหมอนมุ้ง สัตว์เลี้ยง รถจักรยานยนต์ รถยนต์มาไว้ภายในเต็นท์ดังกล่าว บ้างก็เปิดร้านขายของอยู่ภายในเต็นท์พักพิง บางคนยังอาศัยอยู่ในบ้านเหมือนเดิม ไม่อพยพออกไปอยู่ที่ไหน โดยอยู่ชั้นสองของบ้าน ใช้เรือพายเข้าออกมาหาอะไรกิน

นายสมบูรณ์ อายุ 64 ปี เปิดเผยว่า ในพื้นที่มีการทำคันดินเทปูนตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยา บางจุดยังไม่แล้วเสร็จ น้ำกัดเซาะคันดินทะลักเข้าท่วมหลายหมู่บ้านของตำบลน้ำตาล แต่วันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ระดับน้ำไม่มีท่าทีจะลด มีแต่จะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ยอมรับใช้ชีวิตยากลำบาก น้ำประปาไม่ไหล น้ำที่ท่วมขังมาอาบคันตามเนื้อตัว มีปลิงด้วย บางคนอาศัยอยู่ในบ้านจะออกมาทำงานต้องพายเรือออกมา ภาวนาขอให้น้ำลดเร็ว ๆ

ส่วน นายสมหมาย อายุ 69 ปี พาลูกหลานรวม 9 คน ขนย้ายสิ่งของ สัตว์เลี้ยง หนีน้ำมานอนอยู่ในเต็นท์บนถนน โชคดีขนของขึ้นไว้ชั้นสองทัน ไก่ กับหนูพุก 26 ตัว ที่เพาะเลี้ยงไว้ขาย หากเคลื่อนย้ายไม่ทันตายหมดแน่ ส่วนแมวยังอยู่ในบ้าน น้ำท่วมลำบากมากแต่พออยู่ได้

นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจจุดถูกน้ำท่วมที่โรงเรียนสามัคคีวิทยา หมู่ 7 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เป็นโรงเรียนการกุศล ภายในวัดโฆสิทธาราม ซึ่งทั้งโรงเรียนและวัดถูกน้ำท่วมสูง 1-2 เมตรโดยโบสถ์และกุฏิของพระก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน พระจำนวน 6 รูป ออกไปบิณฑบาตไม่ได้ ต้องนำเต็นท์มากางอยู่ริมถนนรอรับอาหารน้ำดื่มจากญาติโยม

ส่วนโรงเรียนสามัคคีวิทยา เป็นโรงเรียนประจำ มีนักเรียน 168 คน เป็นเด็กที่ราบสูง กลุ่มชาติพันธุ์ มาจากต่างจังหวัดทั้งหมด ภายหลังน้ำท่วมบางส่วนกลับไปอยู่กับครอบครัวที่ต่างจังหวัด ที่เหลืออีกประมาณ 60 คน ยังอาศัยอยู่ในหอพักของโรงเรียนแยกหญิงชาย

เด็ก ๆ ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ลงจากหอนอนไม่ได้โดยเฉพาะเด็กเล็ก น้ำท่วมลึก มีครูเวรวันละ 4 คน คอยดูแลไม่ให้คลาดสายตาเกรงว่าจะตกน้ำ เพราะเด็กส่วนใหญ่ว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนห้องน้ำอยู่บนตึกมี 6 ห้อง มีจำนวนจำกัดเพราะห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่างถูกน้ำท่วมใช้งานไม่ได้ อาหารการกินยุ่งยากที่จะไปหาซื้อ จึงต้องประกอบอาหารทำกินกันเองภายในโรงเรียน ให้พออยู่ไปวัน ๆ แต่เด็กต้องได้กินอาหารครบ 3 มื้อ

ทั้งนี้บริเวณหน้าโรงเรียน ได้ตั้งเต็นท์รับบริจาคสิ่งของ เนื่องจากขาดแคลนน้ำดื่ม ข้าวสาร เครื่องครัวประกอบอาหารสำหรับทำอาหารเลี้ยงเด็ก ๆ เพราะออกไปหาซื้อไม่ได้ หลังจากที่ทางโรงเรียนได้โพสต์เฟซบุ๊กขอรับบริจาค ก็มีคนนำสิ่งของต่าง ๆ มาบริจาคให้ไม่ขาดสาย เด็กนักเรียนดีใจออกมาช่วยกันขน

ขณะที่นายชลิต ชมชื่นจิตร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีวิทยา ได้พาผู้สื่อข่าวสำรวจความเสียหายภายในโรงเรียน พบว่าชั้นหนึ่งของอาคารถูกน้ำท่วมทั้งหมด รวมถึงห้องเรียนและห้องทำงานของผู้อำนวยการฯ สิ่งของบางอย่างถูกน้ำท่วม เช่น ชั้นวางของที่เป็นไม้อัด บางอย่างยกขึ้นที่สูงวางไว้บนโต๊ะ อาทิ พัดลม เครื่องถ่ายเอกสาร คอมพิวเตอร์ ฯลฯ น้ำใช้อุปโภคบริโภคเริ่มมีสีขุ่นเพราะเป็นน้ำบาดาล

ผู้อำนวยการโรงเรียนสามัคคีวิทยา เล่าว่า มวลน้ำเริ่มทะลักเข้าโรงเรียนตั้งแต่เช้าวันที่ 26 ก.ย. เนื่องจากทำนบกั้นน้ำเจ้าพระยาพัง พอเห็นน้ำเริ่มไหลบ่า นักเรียนจึงช่วยกันขนของขึ้นที่สูง ปีนี้น้ำท่วมหนักมาก จะให้ชาวบ้านมาช่วยขนของไม่ทัน เพราะบ้านเรือนของพวกเขาก็ถูกน้ำท่วมเหมือนกัน น้ำท่วมขังนาน 7 วันแล้ว

ผู้สื่อข่าวยังได้คุยกับ นางสาวประติมาภรณ์ กิ่งอิง หรือครูเจ ครูโรงเรียนสามัคคีวิทยา เล่าว่า ตนทำหน้าที่เป็นครูเวร ต้องมากินนอนอยู่กับนักเรียน ห้องน้ำไม่เพียงพอ จึงต้องตักน้ำจากแท้งค์ใส่ถังไปไว้ในห้องเรียน และปิดประตูนุ่งผ้าถุงอาบน้ำอยู่ภายในห้องเรียน

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/vAmOWqVEXW4