หลายจังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เริ่มได้รับผลกระทบจากพายุดิเปรสชั่น และฝนที่ตกหนักสะสม โดยเฉพาะที่จังหวัดอ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ที่ชุมชนริมน้ำได้รับผลกระทบจากการเพิ่มการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา รองรับน้ำจากภาคเหนือ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าพายุโซนร้อนเตี้ยนหมู่ อ่อนตัวลงเป็นดีเปรสชั่น แต่ยังส่งผลให้มีฝนตกหนักหลายจังหวัดทั่วประเทศ

ประกาศฉบับที่ 6 ของกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 17 นาฬิกา ที่แจ้งคืบหน้าสถานการณ์พายุโซนร้อน เตี้ยนหมู่ ระบุว่าพายุโซนร้อน ได้อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชั่น มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองสะหวันนะเขต ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ห่างประมาณ 80 กิโลเมตร ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดมุกดาหาร และเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมเขตจังหวัดมุกดาหารในคืนนี้ โดยคืนนี้มีฝนตกหนัก และหนักมากในหลาบจังหวัดอีสาน

และเมื่อดีเปรสชั่นเตี้ยนหมู่ อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง ก็จะเคลื่อนที่ตามแนวร่องมรสุมปกคลุมภาตตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องถึงวันพรุ่งนี้

โดยกรุมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าวันที่ 25 คือวันพรุ่งนี้ จะมีฝนตกหนัก ถึงหนักมากบางแห่ง แยกเป็นในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคเหนือ เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง เป็นต้น

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด ส่วนใหญ่อยู่ในตอนกลางของภาค เช่น เลย หนองบัวลำภู หนองคาย อุดรธานี ขอนแก่น เป็นต้น และอีก 3 จังหวัดของอีสานตอนล่าง คือนครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์

ภาคกลาง 12 จังหวัด เช่นนครสวรรค์ ลพบุรี อุทัยธานี เป็นต้น ไปจนถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนภาคตะวันออก จะมีผลกระทบ 8 จังหวัด เช่นนครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว เป็นต้น

ตอนนี้หลายจังหวัดมีน้ำท่วมสะสมอยู่ก่อนแล้ว เช่นที่ลำปาง บ้านเรือนกว่า100 หลังคา ในตำบลสบปราบ อำเภอสบปราบ ได้รับผลกระทบ จากฝนที่ตกหนักตลอดคืน จนน้ำหลากเข้าท่วม เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องจัดเรือท้องแบน ออกไปตระเวนรับเด็ก และผู้สูงอายุในพื้นที่ลุ่มต่ำ

ส่วนที่จังหวัดสุโขทัย น้ำจากลำน้ำแม่รำพัน หลากเข้าท่วมหลายพื้นที่ของตำบลเมืองเก่า ตำบลบ้านกล้วย และชุมชนคลองโพ อำเภอเมือง ชาวบ้านต้องขนย้ายสิ่งของไปเก็บที่สูง

ส่วนในพื้นที่ลุ่มต่ำ เช่นหน้าโรงพยาบาลสุโขทัย ไปจนถึงหน้าวิทยาลัยเทคนิคสุโขทัย ก็ต้องเสริมกระสอบเพื่อลดผลกระทบจากน้ำที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

วันนี้ (24 ก.ย. 64) กรมชลประทานประกาศ รับมือฝนที่ตกหนักสะสมในภาคเหนือและภาคกลางที่อยู่เหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไป ด้วยการเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อพร่องน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยปรับการระบายจากอัตรา 1,951 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที เป็น 2,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที

การระบายในอัตราดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่นอกคันกั้นน้ำ ที่คลองบางบาล ชุมชุนริมฝั่งแม่น้ำน้อย ตำบลหัวเวียง อ.เสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไผ่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รวมถึง ที่คลองโผงเผง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ส่วนที่จังหวัดสิงห์บุรี จะมีผลกระทบบางในพื้นที่ของอำเภอพรหมบุรี เมือง และอินทร์บุรี โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 75 เซนติเมตร ในเช้าวันที่ 26 กันยายน