จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองในร้านทอง "เยาวราชกรุงเทพ" ชั้น 1 ห้างบิ๊กซี ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี กวาดทองรูปพรรณกว่า 30 บาท หลบหนี สุดท้ายไม่รอดโดนจับกุมตัวไว้ได้ สารภาพที่ก่อเหตุเพราะลงทุนขายสินค้าทางออนไลน์แล้วถูกโกงเป็นหนี้กว่า 50,000 บาท

จากกรณีคนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองในร้านทอง "เยาวราชกรุงเทพ" ชั้น 1 ห้างบิ๊กซี ถนนรัตนาธิเบศร์ ตำบลบางกระสอ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี กวาดทองรูปพรรณกว่า 30 บาท หลบหนี สุดท้ายไม่รอดโดนจับกุมตัวไว้ได้ สารภาพที่ก่อเหตุเพราะลงทุนขายสินค้าทางออนไลน์แล้วถูกโกงเป็นหนี้กว่า 50,000 บาท

ทั้งนี้ทาง พ.ต.ท.บรรจบ ราชกิจ ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อแนบสำนวนเป็นหลักฐานส่งฟ้องนักเรียนสาวรายนี้ พบว่าระหว่างลงมือก่อเหตุคนร้ายได้เข้ามาทางประตูหน้าห้างโดยใส่ชุดดำทั้งชุด ปล่อยผมยาว จากนั้นเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำของห้างโดยเปลี่ยนเป็นใส่เสื้อเหลือง สวมหมวกสีชมพู กางเกงวอร์มสีดำขลิบขาว ลงมือก่อเหตุใช้มีดจี้พนักงานและได้ทรัพย์สินเป็นทองรูปพรรณหนักกว่า 30 บาท ก่อนวิ่งหลบหนีไปทางร้านอาหารในห้างเพื่อวิ่งออกหน้าประตู

มีพลเมืองดีเห็นเหตุการณ์ใช้เท้าเตะขัดขาจนล้มลง ก่อนลุกขึ้นวิ่งหลบหนีอย่างรวดเร็ว โดยมีพนักงานร้านทองและคนในห้างวิ่งไล่ติดตามไป จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สายตรวจร้านทองและชาวบ้านสามารถตามจับคนร้ายได้ โดยไม่คิดว่าจะเป็นนักเรียนหญิงอายุแค่ 17 ปี ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนชื่อดังยานดอนเมือง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวผัดฟ้องส่งศาลเยาวชนเด็กและครอบครัวในวันนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยบอกว่าก่อนหน้านี้พ่อเพิ่งเสียชีวิตไป ครอบครัวจึงได้เงินประกันมาจำนวน 50,000 บาท และแม่ได้ให้ผู้ต้องหาเป็นคนเก็บเงินนี้ไว้ ต่อมาได้เอาเงินไปลงทุนแชร์ออมทรัพย์ออนไลน์

โดยทีแรกเริ่มจากเงินจำนวนไม่มาก ประมาณ 1,000 บาท และได้ผลตอบแทนมา 6,000 บาท จึงเอาเงินทั้งหมด 50,000 บาท ไปลงทุนเพิ่ม แต่ถูกโกง

อีกทั้งแม่ตกงานจากสถานการณ์โควิด-19 ครอบครัวประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ แม่จึงมาถามหาถึงเงินก้อนนี้ เด็กจึงเกิดความเครียด และหาทางออกไม่ได้ จนตัดสินใจก่อเหตุขึ้น โดยทำเป็นครั้งแรก ด้วยความคิดแบบเด็กๆ ว่าต้องการจะเอาเงินมาคืนแม่