วันนี้ (9 ก.ย. 64) จากกรณีนายพุทธวรรณ มั่นปาน อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดพิจิตร ใช้อาวุธปืน ขนาด 9 ม.ม. ยิงครอบครัวของภรรยา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 ราย คือ ลูกเลี้ยง พ่อตา แม่ยาย และ น้องภรรยา รวมถึงลูกหลานของภรรยาที่ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ที่บ้านเลขที่ 90/1 หมู่ 10 ตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร และ ที่บ้านเลขที่ 92 ที่อยู่ใกล้เคียงกัน มีเพียงรั้วปิดกั้น

โดยล่าสุด ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตร ทางพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตรได้นำตัว นายพุทธวรรณ มั่นปาน หรือ พุทธ ผู้ต้องหา โดยนำมาสอบสวน ซึ่งมีทนายของผู้ต้องหาร่วมสอบสวน ใช้เวลา 2 ชั่วโมง โดยสารภาพเป็นคนก่อเหตุ ส่วนรายละเอียดของการลั่นไกยิงครอบครัว แต่ละคน ขอให้การในชั้นศาล ซึ่งหลังจากที่พาตัวผู้ต้องหากลับเข้าที่คุมขัง นายพุทธวรรณ มั่นปาน หรือ พุทธ ผู้ต้องหา กล่าวเพียงสั้นกับผู้สื่อข่าวว่า ขอโทษกับผู้เสียชีวิต จากนั้นจึงเข้าห้องขัง ซึ่งตลอดทั้งวัน มีผู้เข้ามาขอเยี่ยมผู้ต้องหาตลอดทั้งวัน

ด้าน พ.ต.ท บุญยัง บุญเอี่ยม รองผู้กำกับการสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองพิจิตร ระบุว่า ทางผู้ต้องหา ให้การสารภาพเป็นคนก่อเหตุ โดยปมเหตุเกิดจากเรื่องทะเลาะวิวาท โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน ซึ่งทางผู้ต้องหาเองพยายามไถ่ถอนจากที่ดินที่ทางครอบครัวนำไปจำนองจนกลับคืนมา จากนั้น ทางครอบครัวที่เสียชีวิตพยายามบังคับให้ตนเองโอนที่ดินให้กับนายธีรวัฒน์ วงศ์จันทร์แดง ลูกเลี้ยง ที่ได้แรงยุยงจากครอบครัว แต่นายพุทธวรรณ มั่นปาน หรือ พุทธ ผู้ต้องหา ยังไม่ยอมโอนที่ดินให้ เนื่องจาก ลูกเลี้ยงยังมีพฤติกรรมทำตัวไม่ดี จึงไม่ยอมโอนให้

ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ ระหว่างที่ลูกเลี้ยงกำลังเปิดเพลงเสียงดัง และห้ามปราม ลูกเลี้ยงกลับมีการท้าทาย และด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย ว่า แก่ก็อยู่ส่วนแก่ เกิดโมโห จึงยิงปืนจนทำให้เสียชีวิต จากนั้นจึงยิงครอบครัวที่สร้างแรงยุยง ในส่วนคนอื่นอยู่ในพื้นที่จึงถูกยิงไปด้วย

ล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 4 ข้อหาหนัก คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควร และ ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร และไม่อนุญาตประกันตัว เบื้องต้นยังควบคุมตัว เตรียมส่งศาลจังหวัดพิจิตรในวันพรุ่งนี้

ขณะที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ยังคงมีอาการสาหัส เนื่องจากถูกกระสุนปืนเข้าบริเวณจุดสำคัญของร่างกาย และเข้ารักษาตัวอยู่ในห้องไอซีอู โรงพยาบาลพิจิตร ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย จะนำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดคลองคะเชนทร์