โรงพยาบาลดัง ย่านถนนแจ้งวัฒนะ ยอมชดใช้ค่าเสียหายให้แล้ว หลังลูกสาวร้องเรียนพ่อแม่ป่วยโควิดเข้ารักษาที่โรงพยาบาล แล้วทรัพย์สินสูญหายไปกว่า 6 แสนบาท

จากกรณีลูกสาว ร้องเรียนว่า คุณพ่อ อายุ 81 ปี คุณแม่ อายุ 72 ปี ทั้งคู่ติดโควิดไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านถนนแจ้งวัฒนะ เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน จนกระทั่งวันที่ 6 กรกฎาคม คุณพ่อได้เสียชีวิตลง ทางเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลได้เก็บทรัพย์สินของคุณพ่อ ประกอบด้วย สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 5 องค์ ของหลวงปู่ทิม เงินสด 6,000 บาท บัตร ATM บัตรประชาชน และกุญแจบ้าน มาฝากไว้ในกระเป๋าของคุณแม่ที่ยังนอนพักรักษาตัวอยู่ในห้องพิเศษของโรงพยาบาล

โดยเจ้าหน้าที่ได้ถ่ายรูปทรัพย์สินทั้งหมดเป็นหลักฐาน ส่งให้ตนดูเพื่อความสบายใจและเเจ้งว่าจะเก็บเอาไว้ให้ ส่วนทรัพย์สินในกระเป๋าของคุณแม่ ซึ่งมีสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท พร้อมพระเลี่ยมทองหลวงปู่ทวดอีก 1 องค์ ทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเก็บรวมกันไว้ทั้งหมด

ต่อมา 12 สิงหาคม ทรัพย์สินได้หายไปทั้งหมด คิดรวมแล้วมูลค่ากว่า 6 แสนบาท จนคุณแม่ที่ยังรักษาโรคโควิดทราบเรื่อง ก็อาการทรุดและเสียชีวิตไปอีกคน ซึ่งลูกสาวพยายามทวงถามกับทางโรงพยาบาล เพื่อให้ติดตามทรัพย์สินที่มีคุณค่าต่อจิตใจคืน แต่เรื่องไม่คืบหน้า และโรงพยาบาลไม่สามารถหาตัวผู้กระทำผิด หรือนำทรัพย์สินมาคืนได้ จนลูกสาวต้องไปปรึกษาทนายและแจ้งความดำเนินคดี

ล่าสุด นางสาวตา ลูกสาวผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย ประธานชมรมทนายจิตอาสา นายเกียรติคุณ ต้นยาง ไปที่ สน.ปากเกร็ด เพื่อเจรจาพูดคุยกับนายสุพล คงสัจวิวัฒน์ ตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากโรงพยาบาลดังกล่าว โดยใช้เวลาพูดคุยกันนานกว่า 3 ชั่วโมง ได้ผลสรุปว่าตัวแทนผู้รับมอบอำนาจจากโรงพยาบาล จะนำเงินจำนวน 623,000 บาท เต็มจำนวน มามอบให้กับผู้เสียหาย โดยนัดชำระภายใน 7 วันทำการ พร้อมลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าตำรวจ

นายเกียรติคุณ ต้นยาง ประธานชมรมทนายจิตอาสา เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลออกมาแสดงความรับผิดชอบ ชดเชยค่าเสียหายเต็มจำนวน ขณะนี้เหลือเพียงว่า จะชำระเงินกันเมื่อไหร่ ส่วนในเรื่องของคดีอาญา ทางผู้กำกับ สภ.ปากเกร็ด ได้รับข้อมูลและความร่วมมือจากโรงพยาบาล โดยการให้กล้องวงจรปิด รายชื่อเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ที่ปฎิบัติหน้าที่ในวันเวลาที่เกิดเหตุ จะมาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน เพื่อหาคนกระทำผิด และหาทรัพย์ของกลางกลับคืนสู่เจ้าของ