ผลชันสูตรศพเหยื่อ ผกก.โจ้ ไม่ได้ตายเพราะยาเสพติด พบ "แอมเฟตามีน" เจือจางมาก

สังคม

ผลชันสูตรศพเหยื่อ ผกก.โจ้ ไม่ได้ตายเพราะยาเสพติด พบ "แอมเฟตามีน" เจือจางมาก

โดย pattraporn_a

29 ส.ค. 2564

23.5K views

คดี ผู้กำกับการโจ้ และพวก ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันใช้ถุงพลาสติกครอบศีรษะผู้ต้องหาคดียาเสพติดจนเสียชีวิต แม้ผู้ต้องหาทั้ง 7 คน จะถูกจับหมดแล้ว แต่ยังมีอีกหลายประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน โดยเฉพาะประเด็นสำคัญคือ ผลชันสูตรหาสาเหตุการตายของเหยื่อในคดีนี้ ที่แม้ตอนแรกการระบุในเบื้องต้นอาจสับสน แต่อีกไม่เกิน 5 วัน ผลที่แท้จริงจะออกมาแล้ว และมีแนวโน้มว่าการเสียชีวิตอาจไม่ได้เกิดจากการเสพยาเสพติดเกินขนาด


ข้อมูลที่เคยระบุในหนังสือรับรองการตาย ว่าเหยื่อเสียชีวิตเพราะพิษจากแอมเฟตามีนในยาเสพติด เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเบื้องต้น ยังไม่ถือเป็นผลชันสูตร ที่ได้จากการผ่าศพ ซึ่งจะตรวจสอบเสร็จเสร็จภายในไม่เกิน 5 วันนี้ โดยแพทย์จากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ได้ร่วมวินิจฉัยกับผู้เชี่ยวชาญด้านนิติวิทยาศาสตร์ระดับประเทศ การวินิจฉัย นอกจากการตรวจสอบด้วยการผ่าพิสูจน์แล้ว ยังใช้วิธีการไล่เรียงเหตุการณ์ เพื่อตรวจสอบความสอดคล้อง และความขัดแย้งของข้อมูลด้วย


เริ่มจากภาพวงจรปิดระบุเวลา 13.38 น ของวันที่ 5 สิงหาคม อดีตผู้กำกับการโจ้ และชุดปราบปรามยาเสพติด 05 เป็นผู้นำนายมาวิน ผู้เสียชีวิต ไปส่งโรงพยาบาล ด้วยรถยนต์ยนต์สีบรอนซ์เงิน ที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์ลักฐานตรวจแล้วพบเป็นรถสวมทะเบียน และอีกคันคือรถอดีตผู้กำกับการโจ้ โดยมี ร.ต.ท.ธรนินทร์ (เสื้อสีแดง) อยู่ในภาพด้วย


ในภาพ อดีตผู้กำกับการโจ้ ให้ข้อมูลกับแพทย์และพยาบาลว่า "ตำรวจวิ่งไล่จับกุมผู้ต้องหายาเสพติด นานประมาณ 10 นาที หลังจับกุมผู้ต้องหามีอาการวูบ หมดสติ ไม่หายใจ จึงนำตัวส่งโรงพยาบาล" โดยแพทย์ให้การว่าได้ทำ CPR นายมาวิน พร้อมให้ยากระตุ้นหัวใจกลับมามีชีพจร แต่ไม่ลืมตา ไม่มีการเคลื่อนไหว แพทย์จึงให้ยาต่อเนื่อง โดยใช้เวลารักษานาน 3 ชั่วโมง แต่สุดท้ายหัวใจหยุดเต้นเนื่องจาก "ภาวะเป็นกรดในร่างกาย" โดยแพทย์มีการใช้สายยางสอดเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ เพื่อตรวจสารเสพติดตามข้อมูลที่อดีตผู้กำกับการโจ้แจ้งตอนนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล


ต่อมาได้ส่งต่อไปที่ โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ใน เวลา 16.30 น. และเสียชีวิต แพทย์ได้ระบุในใบรับรองการตายว่าสาเหตุมาจากพิษของสารเอมเฟตตามีน


รศ.นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ ผู้ช่วยเลขาธิการแพทยสภา ระบุว่า การตายภายใต้การควบคุมของเจ้าพนักงาน อันน่าเคลือบแคลงว่า การตายนี้มีมูลเหตุจูงใจจึงบังคับให้เจ้าพนักงานที่ควบคุมตัวผู้ตายอยู่ก่อนหน้านี้ เป็นผู้ยื่นเรื่องเพื่อให้มีการทำชันสูตรศพ


และกฎหมายยังล็อคไว้อีกหลายชั้นคือ ภายหลังการชันสูตรศพเสร็จสิ้น ต้องยื่นสำนวนไปยังอัยการเพื่อตรวจสอบ และยังต้องไปจบที่ศาล ให้ทำคำสั่งสุดท้ายสรุปสาเหตุแห่งการตายออกมา 


แพทย์จึงมองว่า หากปล่อยให้เสียชีวิตระหว่างการถูกจับกุม จะถูกบังคับโดยปริยายให้ต้องมีการชันสูตรศพ รวมทั้งเสียชีวิตนอกสถานพยาบาล ก็จะน่าสงสัยว่าเป็นการตายผิดธรรมชาติ ที่อาจตามมาด้วยการชันสูตรพลิกศพเช่นกัน


มีรายงานข่าวว่า การทำรายงานผลชันสูตรใกล้เสร็จแล้ว ตอนนี้ตรวจสอบพบว่า สารแอมเฟตามีน ในร่างกายผู้ตายมีเจือจางมาก คาดว่ามีการเสพยาเสพติดมานานอย่างน้อย 3 วันก่อนเสียชีวิต จึงไม่น่าจะเป็นสาเหตุการตายครั้งนี้ ส่วนจะมาจากขาดอากาศหายใจหรือไม่ อยู่ระหว่างสรุปผลชันสูตร และจะเปิดเผยได้ภายในสัปดาห์ที่จะถึงนี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ