เกิดดราม่าทันทีในโลกออนไลน์ หลัง "เพจไทยรู้สู้โควิด" หลังเผยแพร่ข้อมูล ประเทศไทยฉีดวัคซีนเข้าใกล้ภูมิคุ้มกันหมู่ 50 ล้านคนตามแผน ต่อเนื่องไปยังเพจกรมประชาสัมพันธ์ที่โพสต์ข้อมูลเสริม ดร.เสรี วงศ์มณฑา ในชื่อชุด เสรีมีคำตอบ ที่เรียกว่าเกิดปรากฏการณ์ทัวร์ลง คอมเมนท์ยับ มีคนดังหลายคนออกมาวิจารณ์เพียบ

โดยเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา (23 ส.ค.)  เพจเฟซบุ๊ก ไทยรู้สู้โควิด ของกระทรวงสาธารณสุข เผยแพร่ข้อมูลการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโคิด-19 พร้อมแคปชั่นว่า "เข้าใกล้ภูมิคุ้มกันหมู่ 50 ล้านคนตามแผน" โดยมีอินโฟกราฟิกประกอบ 9 แผ่น ดังนี้

1. ไทยฉีดวัคซีนเข้าใกล้ภูมิคุ้มกันหมู่ 50 ล้านคน ตามแผน

2. สิ่งที่เป็นเงื่อนไขคือ จัดการฉีดวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีน ต้องทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ โดยไม่มีความขัดแย้ง

3. ถ้าเรามีวินัย ปฏิบัติตามมาตรการ ศบค. ไม่ปล่อยให้ Fake news ด้อยค่าวัคซีนยี่ห้อใด ๆ ให้ผู้คนเต็มใจไปฉีดวัคซีน เราน่าจะเปิดประเทศได้ในกลางไตรมาสที่ 4 แม้จะเปิดไม่ได้ทั้งหมด ก็น่าจะเปิดได้เป็นส่วนใหญ่

4. ก่อนจะถึง 50 ล้านคน เราคงจะเปิด Sandbox ต้อนรับนักท่องเที่ยวได้อีกหลายแห่ง เศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้น

5. ในช่วงเวลาดังกล่าวก็จะมีคนได้ฉีด Sinopharm บ้าง Pfizer บ้าง รวมทั้งหมดน่าจะได้เกิน 40 ล้าน ขยับใกล้ 50 ล้าน ที่จะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่เปิดประเทศได้

6. พอ 2 เดือนผ่านไป พวกเขาจะทยอยได้เข็มสอง ที่เป็น Astrazeneca เราก็จะมีคนฉีด 2 เข็ม เพิ่ม 12 ล้านคน

7. เราสั่ง Sinovac มา 12 ล้าน Dose ถ้าเราฉีดได้ 400,000 เข็มต่อวัน 30 วันหรือ 1 เดือน เราจะมีคนฉีดเข็มแรกเป็น Sinovac เพิ่มอีก 12 ล้านคน

8. เรามี Astrazeneca ที่ Siam Bioscience ผลิตภายในประเทศ ดังนั้นเราจึงต้องสั่ง Sinovac มาฉีดเป็นเข็มหนึ่ง แล้วใช้ Astrazeneca ที่ผลิตในประเทศเป็นเข็มสอง

9. 2 เข็มฉีดไขว้ Sinovac+Astrazeneca สร้างภูมิสูงกว่า Astrazeneca+Astrazeneca > Sinovac+Sinovac และ Sinovac+Astrazeneca ใช้เวลาฉีดห่างกันน้อยกว่า Astrazeneca+Astrazeneca

ปรากฏว่ามีคนเข้ามาแสดงความเห็นถล่มทลาย ชาวเน็ต นำข้อมูลมาแย้งโดยเฉพาะประเด็น "ไทยฉีดวัคซีนเข้าใกล้ภูมิคุ้มกันหมู่ 50 ล้านคน" เนื่องจากข้อมูลจากแอปพลิเคชั่น "หมอพร้อม" ณ เวลา 23.10 น. วานนี้ (22 ส.ค.) ระบุว่า มีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกประมาณ 21 ล้านคน และได้รับครบโดส (2 เข็ม) กว่า 6 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งต่อให้นำตัวเลขทั้งสองมารวมกันก็ได้เพียง 27 ล้านคน ซึ่งไม่ใกล้เคียงกับ 50 ล้านคน

หลังจากมีโพสต์นี้ไปได้ประมาณ 6 ชั่วโมงกว่าๆ ปรากฏว่าเพจไทยรู้สู่โควิดได้ลบโพสต์นี้ทั้งหมดไป ซึ่งก่อนหน้านั้นไม่เกิน 5 นาที พบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กกดแชร์โพสต์มากถึง 5 หมื่นกว่าครั้ง แสดงความรู้สึก 4 หมื่นครั้ง และแสดงความเห็น 1 หมื่นกว่ากว่าครั้ง

ทางด้าน นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่โพสต์ว่า "Fake news แบบนี้ แจ้งได้ที่ไหนครับ Sinovac เข็มเดียว ไม่เรียกว่า ภูมิต้านทานหมู่นะครับ หรือ เขาจะนับ ภูมิต้านทานที่เกิดจากการติดเชื้อในธรรมชาติไปด้วย ? การสร้างความเชื่อมั่น สร้าง Trust ไม่ใช่การสื่อสาร แบบเลือกพูดแต่สิ่งดี สร้างภาพลักษณ์ให้งดงาม รัฐบาล คุณมาผิดทางแล้ว ยังไม่ยอมเลี้ยวกลับ ยิ่งสื่อสารแบบนี้ ยิ่งลงคลอง"

ขณะที่ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา นักไวรัสวิทยา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ไบโอเทคฯ สวทช. โพสต์ว่า "หลักการของภูมิคุ้มกันหมู่คือ ไวรัสจะถูก"ตัดตอน" เมื่อเชื้อเข้าไปสู่คนที่มีภูมิจากวัคซีน เพราะไม่สามารถแพร่กระจายต่อให้คนอื่นได้ สำหรับเดลต้าและวัคซีนที่มีอยู่ตอนนี้...คนฉีดวัคซีนติดเชื้อได้และมีปริมาณไวรัสพร้อมส่งต่อให้คนอื่นๆไม่น้อยกว่าคนไม่ได้รับวัคซีน...ภูมิคุ้มกันหมู่ในนิยามนี้คงไม่เกิดขึ้นครับ *** วัคซีนช่วยให้เราต่อสู้กับโควิดที่รุนแรงได้ แต่คงไม่ช่วยให้เราปลอดจากโควิดได้"

ด้าน รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความว่า "ไม่รู้ใครวางแผนอันนี้นะ แต่ถ้าจะทำให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ มันต้องดูที่ฉีดถึงเข็ม 2 ครบโดสแล้ว ว่าฉีดไปได้สักเท่าไหร่ ถ้าคิดแบบพื้นฐาน ว่าภูมิคุ้มกันหมู่ควรจะฉีดวัคซีนมากพอ ให้ได้ 60% ของประชากร ทั้งประชากรจริงบวกประชากรแฝง ก็ควรจะให้ได้เข็ม 2 ถึง 40-50 ล้านคนขึ้นไป ซึ่งตอนนี้เราเพิ่งฉีดถึงเข็ม 2 ไปได้ประมาณ 6 ล้านคนเท่านั้น !! (ที่ฉีดเข็ม 1 ไป ก็แค่ 20 ล้านคนเองนะ) ปล. เป็นที่รู้กันดีว่าวัคซีน sinovac เข็มหนึ่ง ยังแทบไม่กระตุ้นภูมิคุ้มกันอะไรด้วย ต้องฉีดให้ครบ 2 เข็มก่อนถึงพอจะมีภูมิบ้าง .... เลยยิ่งไม่ควรเอามานับเฉพาะเข็มหนึ่ง ใหญ่เลย"

โดย รศ.ดร.เจษฎา ให้สัมภาษณ์กับเรื่องเด่นเย็นนี้ ระบุว่า การลบข้อมูลดังกล่าวไปเป็นเรื่องที่ดี เพราะเป็นการให้ข้อมูลที่ผิดพลาด  ทางที่ดีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องอธิบายให้สังคมเข้าใจก่อน ที่จะมาทำกราฟิกแบบ นี้ เพราะถ้ามองแยกรายรูปอาจเกิดความผิดพลาดในการสื่อสารได้ โดยเฉพาะตัวเลขภูมิคุ้มกันหมู่ 50 ล้านคนที่ห่างไกลจากความเป็นจริงไปเยอะ

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/7PVfyb-QpZ0