ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อ หลังเห็นหนังสือจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ที่แจ้งเรื่องไปยังโรงพยาบาลทุกแห่งในจังหวัดสระบุรี วันที่ 6 ส.ค. โดยในหนังสือได้ระบุว่า ตามที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ได้แจ้งจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer) ที่ได้รับจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อฉีดกระตุ้นภูมิ เข็ม 3 สำหรับบุคลากรทางการแพทย์

แต่มีปัญหาในการจัดสรรวัคซีนดังกล่าว จึงขอยกเลิกการจัดสรรตามที่หนังสืออ้างถึง โดยให้ทุกโรงพยาบาลดำเนินการฉีดให้แล้วเสร็จภายในวันจันทร์ที่ 8 ส.ค. หากดำเนินการฉีดไม่หมด จะขอรับวัคซีนคืน เพื่อดำเนินการจัดสรรให้หน่วยงานอื่นๆต่อไป และให้ติดต่อรับวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลสระบุรีในวันที่ 6 ส.ค. เวลา 14.00 - 16.00 น.

โดยผู้แจ้ง ได้ตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดจึงต้องให้รีบฉีดแล้วเสร็จภายในวันจันทร์ ที่ 8 ส.ค. ทั้งที่วัคซีนมาถึงประเทศไทยตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้ง บางโรงพยาบาลก็ได้วัคซีนไม่ครบตามจำนวนที่ร้องขอ เช่น บางโรงพยาบาลขอไป 57 โดส แต่ได้รับจัดสรรเพียง 9 ขวด ซึ่ง 1 ขวดฉีดได้ 6 โดส เท่ากับได้รับแค่ 54 โดส แล้วคนที่เหลือจะทำอย่างไร

และบางโรงพยาบาลที่ขอไปแต่ได้เกิน เช่น บางโรงพยาบาลขอ 40 โดส แต่ได้รับจัดสรร 7 ขวด เท่ากับได้รับ 42 โดส แล้ววัคซีนที่เหลือจะทำอย่างไร และจะฉีดให้ใคร นอกจากนี้ยังมีข้อสงสัยว่า บุคลากรทางการแพทย์ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง อยู่ระหว่างกักตัว จะได้ฉีดหรือไม่

ขณะที่ นายแพทย์กฤษณ์ สกุลแพทย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระบุรี ให้ข้อมูลว่า ที่ออกหนังสือแบบนั้น เพราะต้องการให้บุคลาการทางการแพทย์ได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด ไม่อยากให้ไปดองไว้ จึงต้องออกคำสั่งให้เร่งฉีด ซึ่งไม่มีนัยยะอื่นใด ที่บอกว่าหากฉีดไม่หมดจะขอวัคซีนคืนไปจัดสรรให้หน่วยงานอื่น เป็นเพียงการกดดันเล็กน้อย เพื่อให้ฉีดวัคซีนให้หมดตามเวลาที่กำหนด

ส่วนคนที่กักตัวอยู่ ทางโรงพยาบาลต่างๆก็ต้องมีวิธีทำให้บุคคลากรณ์นั้นๆได้ฉีด เพราะไม่สามารถนำไปฉีดให้คนอื่นได้อยู่แล้ว สำหรับโรงพยาบาลที่ได้รับวัคซีนไม่ครบตามที่ร้องขอก็ต้องรอรอบต่อไป ส่วนโรงพยาบาลที่ได้รับวัคซีนเกินไปบ้าง 1-2 โดส ก็คงไม่ทิ้ง และต้องฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ลืมลงชื่อก็ได้ ซึ่งเชื่อว่าทางโรงพยาบาลต่างๆสามารถบริหารจัดการเรื่องนี้ได้

รับชมทางยูทูปที่ : https://youtu.be/A0xzYWBfoCE