จับหนุ่มหลอกขายวัคซีนทางเลือก เหยื่อสูญเงินกว่า 2 แสน สารภาพไม่เคยมีวัคซีนจริง เอาเงินไปเล่นเกมออนไลน์

สังคม

จับหนุ่มหลอกขายวัคซีนทางเลือก เหยื่อสูญเงินกว่า 2 แสน สารภาพไม่เคยมีวัคซีนจริง เอาเงินไปเล่นเกมออนไลน์

โดย thichaphat_d

5 ส.ค. 2564

22 views

เจ้าหน้าที่ร่วมกันสืบสวนหาตัวคนร้ายในคดีหลอกลวงขายวัคซีนป้องกันโควิด-19 ผ่านทางเฟซบุ๊ก มีผู้เสียหายกว่า 50 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 200,000 บาท ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน ในช่วงโควิด - 19


ชุดสืบสวนได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายฐาปกรณ์ แก้วศรี อายุ 20 ปี เป็นคนร้ายในคดีดังกล่าว โดยให้การยอมรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊กจำนวน 7 บัญชี ชื่อ สิทธิพงษ์ ทองฮุย / กิตติพงษ์ บางประอินทร์ / Thapakorn kaewsri / อัพ มาแพนดี้ / ฐาปกรณ์ แก้วศรี / Yutthana Kawirai เและ แจ็ค กี้


ทำการโพสต์ข้อความหลวกลวงขายวัคซีนป้องกันโควิท 19 ตามกลุ่มสาธารณะต่างๆ เช่น ลงทะเบียนวัคซีนทางเลือก ชิโนฟาร์ม / มาฉีดวัคซีนกันเถอะ / จองฉีดวัคซีนที่ไหนได้บ้าง? วัคซีนทางเลือกจองได้ที่ไหน? / วัคซีนทางเลือกชิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งตนเองไม่ได้มีวัคซีนดังกล่าวแต่อย่างใด


โดยเงินที่ได้จากการหลอกลวง ตนเองนำไปใช้เล่นเกมออนไลน์ และใช้จ่ายส่วนตัว ซึ่งการกระทำดังกล่าว ได้เริ่มกระทำผิดในครั้งนี้มาเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน พร้อมสามารถตรวจยึดของกลาง โทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง และเงินสดจำนวน 8,000 บาท


โดยผู้ต้องหาทำทีหลอกขายวัคซีนทางเลือก เช่น โมเดอร์นา ซิโนฟาร์ม ในราคา 3,300 บาท จากการแอบอ้างว่ามีสิทธิ์ จากการจองซื้อวัคซีนทางเลือก กับทางโรงพยาบาลเอกชน แล้วมีสิทธิ์เหลือ จึงนำมาจำหน่ายให้กับผู้เสียหายที่สนใจหลงเชื่อ ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายหลายรายกว่า 50 คน บางรายถูกหลอกจ่ายเงินมัดจำและบางรายจ่ายด้วยเงินเต็มจำนวน มูลค่าความเสียหาย กว่า 200,000 บาท


ซึ่งจะนำข้อมูลทางการเงินมาขยายผลโดยละเอียด เนื่องจากผู้เสียหายบางรายอาจมองว่าเป็นเงินจำนวนน้อย จึงไม่ได้ติดตาม แต่หากมีจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกหลายราย เป็นการฉ้อโกงประชาชน ก็จะมีมูลค่าความเสียหายที่สูง ซึ่งจะใช้นำไปประกอบการดำเนินคดี


ในเบื้องต้น จากการตรวจสอบข้อมูล พบว่า นายฐาปกรณ์ เพิ่งได้รับการพ้นโทษจำคุก ในข้อหา ฉ้อโกง หลวงลวงขายสินค้าออนไลน์ มาเมื่อเดือนกันยายน ปี 2563 ที่ผ่านมา โดยศาลมีคำพิพากษา ลงโทษจำคุก 3 ปี รับสารภาพเหลือจำคุก 1 ปี 6 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน จึงแจ้งข้อกล่าวและดำเนินคดี ในความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชน ป.อาญา ม.343


และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(1) พร้อมนำตัว ผู้ต้องหาและของกลาง ส่ง พนักงานสอบสวน สภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/gkXku8HJqHU

คุณอาจสนใจ

Related News