วันนี้ (3 สิงหาคม 2564) ที่วัดคลองส่งน้ำ บ้านพบสุข ตำบลปรุใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนวัดเพียงไม่กี่แห่งในเขตอำเภอเมืองนครราชสีมา ที่รับประกอบพิธีฌาปนกิจศพผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 โดยหากผู้ป่วยโควิด-19 ที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเสียชีวิตลง ทาง รพ.จะประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ไปเคลื่อนย้าย และนำส่งร่างผู้ป่วยโควิด-19 ที่เสียชีวิต ไปประกอบพิธีเผาศพที่วัดแห่งนี้

แต่ถึงแม้ว่าวัดแห่งนี้จะต้องปฏิบัติภารกิจเกี่ยวกับศพผู้เสียชีวิตจากโควิด แต่พระภิกษุ เณร และสัปเหร่อของวัดกลับยังไม่มีใครได้ฉีดวัคซีนต้านโควิดเลยแม้แต่รายเดียว ซึ่งทั้งพระ เณร และสัปเหร่อ ได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนเรียบร้อยแล้ว โดยระบุได้คิวฉีดวัคซีนตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 แต่จนถึงขณะนี้เวลาไปกว่า 2 เดือนแล้วก็ยังไม่มีใครได้ฉีดวัคซีนเลยสักคน เนื่องจากทางโรงพยาบาลแจ้งว่ายังไม่ถึงคิว

นายมานพ ดงคำสี อายุ 41 ปี มัคทายกวัด และผู้ช่วยสัปเหร่อวัดคลองส่งน้ำ เปิดเผยว่า ทางวัดจะนิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาประกอบพิธีฌาปนกิจสวดหน้าไฟให้ผู้เสียชีวิตจากควิด-19 ท่ามกลางบรรดาญาติใกล้ชิดเพียงไม่กี่รายมาร่วมประกอบพิธี ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะมาให้คำแนะนำ ควบคุมการประกอบพิธีทางศาสนาให้เป็นไปตามข้อกำหนดของคณะกรรมการโรคติดต่ออย่างเคร่งครัด

โดยทุกขั้นตอนตั้งแต่นำร่างผู้เสียชีวิตมาที่วัดทางกู้ภัยจะทำการฉีดพ่นฆ่าเชื้อโรคบริเวณโดยรอบเมรุ จนนำโลงเข้าสู่เตาเผาไฟ โดยให้พระสงฆ์ ญาติโยม รวมทั้งสัปเหร่อรออยู่ด้านล่างเมรุ จนเมื่อเผาศพไปได้กว่า 3 ชั่วโมง สัปเหร่อจึงจะรับช่วงต่อในการตรวจเช็คว่า เผาร่างไหม้จนหมดหรือยัง และดำเนินการไปจนจบทุกขั้นตอน

ซึ่งอาชีพสัปเหร่อถือว่ามีความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อได้เช่นกัน แต่ต้องยอมรับว่าตั้งแต่ทางวัดเริ่มรับฌาปนกิจศพผู้ป่วยโควิด-19 มาแล้วมากกว่า 10 ศพ แต่ทั้งพระภิกษุที่ทำหน้าที่สวดศพ เณร มัคทายก สัปเหร่อ และบุคลากรภายในวัดคลองส่งน้ำกลับยังไม่มีใครได้ฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เลยสักราย ทั้ง ๆ ที่ลงทะเบียนแจ้งรายชื่อจองฉีดวัคซีนไปกว่า 2 เดือนแล้ว แต่ได้รับคำตอบว่าวัคซีนยังมีไม่เพียงพอ ต้องขอเลื่อนคิวออกไปก่อน

ซึ่งทุกคนในวัดก็ยังไม่รู้ว่าจะได้ฉีดวัคซีนกันเมื่อไร จึงอยากวิงวอนไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้โปรดให้ความสำคัญเร่งจัดหาวัคซีนต้านโควิด-19 มาฉีดให้กับพระภิกษุ เณร และบุคลากรของวัดโดยเร็วด้วย