พัทลุง-เมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายประพัฒน์ หนูปาน อายุ 26 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องขังที่อยู่ในระหว่างการสอบสวนของ สภ.ป่าบอน ที่ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งเรือนจำกลางพัทลุงได้ส่งตัวเข้ามารักษาโรคดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลพัทลุง จากนั้นได้ขโมย รถจักรยานยนต์ ซึ่งอยู่จอดเสียบกุญแจคารถจักรยานยนต์ไว้บริเวณหน้าขับหลบหนีไป

ก่อนหน้านี้ผู้ต้องขังรายดังกล่าว ได้ก่อเหตุชิงทรัพย์จักรยานยนต์ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ในท้องที่ ม.8 ต.ป่าบอน อ.ป่าบอน ต่อมาได้ถูกเจ้าหน้าที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี จับกุมตัวในข้อหาเสพยาเสพติด และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าบอน ได้ขออายัดตัวในข้อหาชิงทรัพย์ รับตัวนายประพัฒน์ฯ มาดำเนินการตามกฎหมายเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 และส่งตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดพัทลุง

-ต่อมาเรือนจำกลางพัทลุงได้ตรวจพบเชื้อโควิด จึงได้นำตัวมารับการรักษาใน รพ.พัทลุง เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 ส่วนตำรวจทั้ง 6 นาย ก็มีการตรวจหาเชื้อโควิดแต่ไม่พบเชื้อทั้ง 6 นาย จนผู้ต้องขังรายนี้หนีออกจาก รพ.พัทลุงดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อเวลา 20.00 น. ตำรวจ สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ว่าได้มีเหตุคนร้ายที่เป็นผู้ต้องหาติดเชื้อโควิดจากเรือนจำพัทลุง แล้วรักษาตัวที่โรงพยาบาลพัทลุงก่อนหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมแล้วเกิดแย่งปืนตำรวจก่อนถูกวิสามัญเสียชีวิต โดยเหตุเกิด บริเวณถนนธงชัย ซอย 1 ม.1 ต.แม่ขรี อ.ตะโหมด

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/G4LDawQEfn4

ที่เกิดเหตุพบร่างนายประพัฒน์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าบริเวณลำตัวรวม 3 นัด โดยใกล้ศพเจ้ายังที่ยังพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 กระบอกจึงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนประสานผู้บังคับบัญชา เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อัยการจังหวัด และเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐานพัทลุง และแพทย์ รพ.ตะโหมด เพื่อชันสูตรร่วม

ด้านพล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง กล่าวว่า หลังรับแจ้งว่ามีผุ้ต้องขังหลบหนี ทางเจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวน พร้อมทั้งติดตามภาพทางกล้องวงจรปิดที่คาดว่าคนร้ายหลบหนี ทั้งในพื้นที่ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน และบ้านอดีตภรรยาในพื้นที่ อ.บางแก้ว ก่อนที่จะมีผลเมืองแจ้งพบขับรถวนเวียนอยู่แถวเขตเทศบาลตำบลแม่ขรี

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจนเจอ และได้ติดตามจับกุมแต่ขณะที่ผู้ต้องหาถูกประชิดตัวด้วยตำรวจ พยายามวิ่งมาเปิดประตูรถตำรวจเพื่อแย่งอาวุธปืน ก่อนที่จะกอดรัดฟัดเหวี่ยงและแย่งปืนเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ ขณะที่เพื่อนตำรวจอีกนายที่มาด้วยกัน พยามยามตะโกนให้ยอมแพ้ แต่ผู้ต้องหาเอาปืนมาจ่อยิงตำรวจแต่อาวุธปืนไม่ลั่นใส่เนื่องจากยังไม่ได้ขึ้นลำ จนกระทั่งถูกยิงสวนกลับจนเสียชีวิต

ในเบื้องตนได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดพิสูจน์หลักฐาน เก็บวัถตุพยานและตรวจหาเขม่าปืนจากตำรวจที่ลงมือวิสามัญ พร้อมทั้งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และหลังจากนี้คงจะให้ชุดสืบสวน ที่ใกล้ชิดและอยู่ในเหตุการณ์กักตัวทั้งหมด เนื่องจากเสี่ยงต่อการติดเชื้อ