สังคม
อดีตผู้สมัคร ส.ส. อ้างได้วัคซีนเข็ม 3 เพราะทำงานด่านหน้า-เป็นผู้สูงอายุ ย้ำไม่เคยบีบบังคับบุคลากร
โดย sujira_s
2 ส.ค. 2564
1.5K views
ชาวโซเชียลพิษณุโลกเดือด แห่แชร์ ส.ส.หญิงพรรคดัง อ้างผู้ใหญ่ในจังหวัด บังคับเจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ ทั้งที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์
โดยมีเฟซบุ๊ก ชื่อ Phitsanulok Hotnews ได้โพสต์ระบุว่า "อ้างผู้ใหญ่ในจังหวัด บังคับเจ้าหน้าที่ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ที่งทีไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์" เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่ศูนย์รับฉีดวัคซีน หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นสถานที่รับฉีดวัคซีนไวรัสโควิด มีกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้พิการ เดินทางมารับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นเข็มแรก จำนวนหลายร้อยคน
แต่ปรากฏว่า มีคนหนึ่งที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ หรือบุคลากรทางการแพทย์ ได้เข้ามาขอรับวัคซีนเข็มที่ 3 จากเจ้าหน้าที่ ทั้งที่ตนเองไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับดู และรักษาผู้ป่วยโควิด หรือ เป็นบุคลากรทางการแต่อย่างใด โดยอ้างถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในจังหวัดพิษณุโลก บีบบังคับกับทางเจ้าหน้าที่ ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ จึงจำใจต้องยอมฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้ไป สร้างความอึดอัดเอือมระอากับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก
เพจนี้ได้ถูกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ พร้อมกับเสียงวิพากวิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ซึ่งบางคนก็ว่า เห็นแก่ตัว คนอื่นยังไม่ได้ฉีดเลยสักเข็ม บางก็ว่า ใช้อภิสิทธิ์อะไรถึงได้เข็ม 3 จังหวัดต้องออกมาอธิบาย
เรื่องนี้ ล่าสุด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เขต 1 นายปดิพัทธ์ สันติภาดา พร้อมสมาชิกพรรค วันนี้ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ นายรณชัย จิตรวิเศษ ขอให้พิจารณา และตรวจสอบ กรณีคุณแน่งน้อย อัศวกิตติกร แทรกแซงการได้รับวัคซีนโควิด และได้พาดพิงว่า ตนเองดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ว่าฯ ได้รับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเป็นเข็มที่ 3 ทั้งที่ตนเองไม่ได้เป็นกลุ่มเสี่ยง หรือบุคลากรทางการแพทย์
นอกจากนี้ยังได้ร้องเรียนถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จนสร้างความลำบากให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และประชาชน บุคลากรด่านหน้าหลายคนยังไม่ได้รับวัคซีนเพียงพอ และอยู่ในความเสี่ยงจากการติดเชื้อในการปฏิบัติหน้าที่ทุกวัน มากกว่านั้นประชาชนทุกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจและไม่พอใจ เกิดการตั้งคำถามถึงจังหวัดพิษณุโลก ว่าทำไมจึงมีการจัดสรรวัคซีนโดยไม่เป็นธรรมและไม่ทั่วถึง และบางคนยังไม่เคยรับเลยแม้แต่เข็มเดียว แต่กลับมีคนสามารถนำชื่อ และตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับผู้ว่าฯ ไปขอวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับตนเองได้ จึงขอให้ผู้ว่าฯ ตรวจสอบ และชี้แจงผลกลับมา
ขณะที่ผู้ที่ถูกพาดพิงถึง ทราบชื่อคือ นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมพลังประชาชาติ เปิดเผยทางโทรศัพท์ถึงสาเหตุที่ต้องไปขอฉีดวัคซีนเข็ม 3 เนื่องจากตนเองทำงานด้านหน้ามาโดยตลอด นำสิ่งของต่างๆ จากการบริจาคของประชาชนมามอบให้กับจุดคัดกรอง หรือ โรงพยาบาลสนาม ด้วยความเป็นผู้สูงอายุที่ผ่านมาการฉีดวัคซีนนั้น ตนเองมีคิวที่จะฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาอยู่แล้ว
แต่เนื่องจากช่วงแรกๆ ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนน้อย ตนจึงมาช่วยรณรงค์ให้ประชาชนหันมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น ด้วยการไปฉีดวัคซีนซิโนแวคแทนทั้ง 2 เข็ม แต่มีแพทย์มาบอกตนเองว่า การเป็นผู้สูงอายุ ฉีดวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม นั้นไม่ดี อาจเสี่ยงต่อภูมิคุ้มกันเหลือน้อย เนื่องจากเป็นผู้สูงอายุ ตนจึงได้ขอเข้าไปฉีดวัคซีนเข็ม 3
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าไปแอบอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ หรือไปบีบบังคับบุคลากรทางการแพทย์นั้นก็ไม่จริงแต่อย่างใด ที่ผ่านมาก็ไม่เคยอ้างใครอยู่แล้ว โดยเฉพาะการทำงานก็ทำด้วยใจ และทำเพื่อสังคมมาโดยตลอด