ทั้งภาครัฐและเอกชนกำลังพยายามเพิ่มศักยภาพการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะการเพิ่มและขยายโรงพยาบาลสนาม ล่าสุดคือโรงพยาบาลสนามกองทัพบก ภายในมลฑลทหารบกที่ 11 ซึ่งบริหารจัดการโดยโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง ตัดสินใจขยายเฟส 2 เพื่อยกระดับเป็นโรงพยาบาลสนามที่ดูแลผู้ป่วยระดับICU ได้เป็นแห่งแรก ขณะเดียวกัน ก็เปิดศูนย์เทรนนิ่ง เซนเตอร์ ฝึกภาคปฎิบัติในการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 โดยเฉพาะ เพื่อเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ได้ด้วย

ห้องที่ถูกปรับและดัดแปลงให้เป็นทั้งห้องบันทึกข้อมูลและเป็นศูนย์ฝึกทักษะ หรือเทคนิคเพื่อดูแลผู้ป่วยโควิด-19 หรือห้องเทรนนิ่งเซนเตอร์ เป้าหมายหลังคือการฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับที่ยังไม่ใหม่ หรือมาจากวอร์ด การดูแลคนไข้ในโรคอื่นๆ แล้วต้องปรับสถานการณ์มาดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่กลายเป็นวิกฤตในตอนนี้

เป้าหมายหลักของเทรนนิ่งเซนเตอร์ คือฝึกทั้งทักษะการดูแลผู้ป่วย และทักษะการใช้ข้อมูลทางเทคโนโลยี เพื่อรักษาผู้ป่วยได้ทุกระดับอาการ เช่นการติดตั้งกล้องวงจรปิดแบบสนทนาได้ระหว่างผู้ป่วยบนเตียงคนไข้ กับทีมแพทย์ที่อาจจะอยู่นอกห้องรักษา

เทรนนิ่ง เซนเตอร์ ดังกล่าว อยู่ภายในโรงพยาบาลสนามกองทัพบก มณฑลทหารบกที่ 11-1 บริหารจัดการโดยโรงพยาบาลธนบุรีบำรุงเมือง

ขณะที่อธิบดีกรมกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ระบุว่าพยาบาลหรือบุคลากรที่ชำนาญงานด้านอื่น อาจตื่นตระหนกหากต้องมาดูแลผู้ป่วยโควิด-19 แต่การฝึกดังกล่าวจะช่วยเพิ่มทักษะให้บุคลากรเหล่านั้นให้เข้าใจและชำนาญ เพื่อดูแลผูป่วยโควิด ทั้งในโรงพยาบาลหลักและโรงพยาบาลสนามได้

ตอนนี้กองทัพบก อนุญาตให้ใช้โรงพยาบาลสนามสีเขียว ที่เคยอยู่ในการดูแลของกรมแพทย์ทหารบก ตั้งอยู่ในมลฑลทหารบกที่ 11 เพื่อให้โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง ขยายพื้นที่เป็นเฟส 2 ภายใต้ชื่อโรงพยาบาลกองทักบก มณฑลทหารบกที่11-2 เพื่อจะดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการหนัก แยกเป็นผู้ป่วยระดับสีแดงสีแดง 60 เตียง / สีส้ม 60 เตียง และ สีเหลือง 32 เตียง พร้อมเพิ่มมาตรการดูแลผู้ป่วยหนัก ที่อาจเรียกได้ว่าเป็นโรงพยาบาลสนามแห่งแรกๆที่รักษาผู้ป่วยไอซียู

เฟส 2 ของโรงพยาบาล จะเปิดรักษาผู้ป่วยในต้นเดือนหน้า ซึ่งจะสอดคล้องกับบุคลากรที่ผ่านการฝึกจากเทรนนิ่งเซนเตอร์มากขึ้น

ขณะที่พื้นที่อื่นๆ ก็มีความพยายามสร้างโรงพยาบาลสนามเพิ่มขึ้นเช่น ย่านบางนาตราด มีโรงพยาบาลสนามขนาด 450 เตียง เพื่อดูแลผู้ป่วยสีเขียวและเหลืองอ่อน โดยโรงพยาบาลในเครือพริ้นซิเพิ้ล เฮิล์ทแคร์ หากพบว่ามีอาการหนัก จะถูกส่งไปโรงพยาบาลปริ้นซ์ สุวรรณภูมิ คาดว่จะเปิดรับผู้ป่วยได้ในสัปดาห์ที่ 2 ของ เดือนหน้าสิงหาคม