เร่งล่าตัวมิจฉาชีพ แฮกค่ายมือถือขายสิทธิ์ฉีดวัคซีนโควิด ขายต่อหัวละ 500 - 1,000 บาท

สังคม

เร่งล่าตัวมิจฉาชีพ แฮกค่ายมือถือขายสิทธิ์ฉีดวัคซีนโควิด ขายต่อหัวละ 500 - 1,000 บาท

โดย thichaphat_d

29 ก.ค. 2564

591 views

เมื่อวันที่ 28 ก.ค. พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง ในฐานะ​ ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ฉีดวัคซีนให้กับประชาชนที่มีอายุ 60 ปี, หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป และผู้มีน้ำหนักตัว 100 กิโลกรัมขึ้นไป แบบวอล์กอิน  ส่วนการนัดหมายผ่านองค์กรก็มีแค่กระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีจำนวนไม่มาก แต่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา มีการนัดหมายผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ทรู เข้ามาฉีดวัคซีนวัคซีน  ประมาณวันละ 500 คน 


ซึ่งทางเราไม่มีการนัดหมายผ่านเครือข่ายโทรศัพท์  จึงให้เจ้าหน้าที่จับตาเป็นพิเศษ และตรวจสอบพบข้อมูลการใช้ที่ผิดปกติจำนวน 10 ยูสเซอร์ ซึ่งวันนี้ (28 ก.ค.) ก็พบว่า ผู้ใช้เลขหมาย 10 ยูสเซอร์นี้มีการนัดหมายให้คนมาฉีดวัคซีน รวมกว่า 2,000 สิทธิ เราจึงปล่อยให้ผู้ที่นัดหมายจากเครือข่ายดังกล่าวมารับวัคซีน ประมาณ 500 คน จากนั้นก็ทำการยกเลิกนัดหมายสิทธิ​ เพื่อให้คนที่มีนัดที่เหลือ เดินเข้ามาสอบถามกับเจ้าหน้าที่  เจ้าหน้าที่จึงมีการสอบถามข้อมูลกลับว่ามีการติดต่อกันอย่างไร ทำให้ทราบว่า มีการแฮกข้อมูลผ่านเครือข่ายโทรศัพท์และเรียกรับเงิน คนละ 500-1,000 บาท


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้รายงานให้ทราบว่า ได้เกิดกรณีการทุจริตการจองคิวเพื่อขอเข้ารับวัคซีน โดยมีการแฮ็กระบบของบริษัทเครือข่ายมือถือแห่งหนึ่ง(ทรู) เพื่อนำโควตาวัคซีนไปขายสิทธิต่อ โดยมีการจ่ายค่าหัวรายละ 500 – 1,000 บาท แต่เนื่องจากบริษัทมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด จึงสามารถตรวจสอบพบความผิดปกติ ขณะนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้วเรียบร้อย หากสอบสวนแล้วพบว่าทำผิดจริงจะต้อง โทษจำคุก 3-10 ปี และขณะนี้กำลังสอบเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมรู้เห็นหรือไม่ หากมีจะต้องรับโทษตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาด้วย


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ได้รายงานให้ทราบว่า ได้เกิดกรณีการทุจริตการจองคิวเพื่อขอเข้ารับวัคซีน โดยมีการแฮ็กระบบของบริษัทเครือข่ายมือถือแห่งหนึ่ง(ทรู) เพื่อนำโควตาวัคซีนไปขายสิทธิต่อ โดยมีการจ่ายค่าหัวรายละ 500 – 1,000 บาท แต่เนื่องจากบริษัทมีระบบการตรวจสอบที่เข้มงวด จึงสามารถตรวจสอบพบความผิดปกติ ขณะนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้วเรียบร้อย หากสอบสวนแล้วพบว่าทำผิดจริงจะต้อง โทษจำคุก 3-10 ปี และขณะนี้กำลังสอบเพิ่มเติมว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐร่วมรู้เห็นหรือไม่ หากมีจะต้องรับโทษตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญาด้วย


สำหรับประชาชนผู้ที่ซื้อสิทธิมารับวัคซีน กรณีที่ให้ความร่วมมือในการข้อมูลและหลักฐานการโอนเงินการติดต่อกับ ตัวกลาง หรือผู้กระทำทางการจะกันเป็นพยาน จะฉีดให้ แต่หากไม่ให้ความร่วมมือก็ไม่ฉีดวัคซีนให้และถือว่าเป็นผู้กระทำผิดตามกฎหมายเช่นเดียวกัน


ด้านนายพิชิต ธันโยดม ผู้บริหารกลุ่มทรู แจ้งว่า เมื่อวานนี้ (27 กรกฎาคม 2564) ได้รับทราบรายงาน เหตุผิดปกติ เนื่องจากมีผู้แจ้งว่าได้จองผ่านระบบ แต่ไม่มีการนำ QR CODE มาด้วย ทางเจ้าหน้าที่หน้างานทรู จึงตรวจสอบกลับไป และไม่พบข้อมูลที่ลงทะเบียนไว้กับทรูแต่อย่างใด ทำให้เห็นพิรุธ พบสิ่งผิดสังเกต จึงได้ดำเนินการแจ้งความ และ แจ้งไปกรมการแพทย์ เพื่อทำการตรวจสอบอีกทางหนึ่ง


ทั้งนี้การส่งรายชื่อผู้ที่จองผ่านค่ายมือถือนั้นเป็นระบบปิด ที่ต้องส่งรายชื่อผ่านทางอีเมลล์ เพื่อให้ส่วนกลางคือกรมการแพทย์ดำเนินการตรวจสอบความถูกต้องและลงทะเบียนในระบบของกรมการแพทย์แต่ละวันเพื่อความโปร่งใส นอกจากนี้ ขณะนี้บริษัท ยังได้ดำเนินการแจ้งความกรณีดังกล่าวแล้ว เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/EgUkrNJBGBk


คุณอาจสนใจ