จากปัญหาผู้ป่วยเตียงเต็มจนไม่มีที่รักษาในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคมได้ร่วมกันจัดรถไฟเที่ยวพิเศษกลับไปรักษาตัวยังภูมิลำเนา โดยเริ่มที่ 7 พื้นที่จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

เจ้าหน้าที่จากสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน ได้นัดหมายขั้นตอนการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเขียวและสีเหลืองอ่อน กลุ่มแรกจำนวน 135 คน ที่จะโดยสารรถไฟเที่ยวพิเศษกลับไปรักษาตัวยังสถานพยาบาลในภูมิลำเนาใน 7 จังหวัดอีสานใต้ คือ จังหวัดนครราชสีมา, จังหวัดบุรีรัมย์, จังหวัดสุรินทร์., จังหวัดศรีสะเกษ, จังหวัดยโสธร, จังหวัดอำนาจเจริญ และ จังหวัดอุบลราชธานี หลังประสบปัญหาขาดแคลนเตียงรักษาในเขตกรุงเทพและปริมณฑล

เมื่อผู้ป่วยเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ก็จะพาเข้าประจำโซนนั่งที่จัดไว้ ตู้ละ 35 คน ภายในตู้โดยสารจะมีอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ถังออกวิเจน และ บุคลากรทางการแพทย์ คอยดูแลผู้ติดเชื้อ พร้อมกับมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดระหว่างเดินทาง เช่น การเดินทางโดยไม่จอดพัก ห้ามเคลื่อนย้ายระหว่างตู้โดยสาร ส่วนของเสียจากห้องน้ำในขบวนรถก็จะมีถังเก็บก่อนนำมาบำบัด โดยไม่มีการปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก รวมไปถึงระบบปรับอากาศ ที่เป็นแบบแยกตู้ ทันทีที่ถึงสถานีปลายทางก็จะมีรถพยาบาลมารอรับ เพื่อนำตัวส่งเข้าสู่ระบบการรักษาปลายทางในแต่ละจังหวัด ซึ่งได้มีการประสานเตียงไว้ก่อนหน้านี้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่ามาตรการนี้จะเป็นการกระจายผู้ป่วยจะช่วยลดความแออัดของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้ ซึ่งในภาพรวมทั่วประเทศถือว่ายังบริหารจัดการได้

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุว่า ทางกระทรวงได้จัดเตรียมระบบขนส่งอื่นๆ ทั้งรถตู้ รถบัสโดยสาร รวมถึงกองทัพอากาศไว้รองรับผู้ป่วยที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนาในอนาคต และจะเปิดลงทะเบียนให้กับผู้ป่วยที่มีความประสงค์จะกลับไปรักษายังภูมิลำเนาต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์การติดเชื้อจะคลี่คลาย

ผู้ป่วยโควิด-19 ที่ต้องการกลับไปรักษาตัวยังภูมิลำเนาสามารถลงทะเบียนได้ผ่านสายด่วยสปสช. 1330 หรือ แจ้งความประสงค์กับจังหวัด ซึ่งทางกระทรวงคมนาคมจะประสานงานเข้ารับตัวผู้ป่วยส่งกลับภูมิลำเนาต่อไป