รพ.ขอโทษ ปม ผอ.สายตรงสั่ง รปภ.ไล่แม่ลูกไม่ให้รักษา เหตุเสี่ยงโควิด ทำเด็กไข้สูงหวิดช็อก

สังคม

รพ.ขอโทษ ปม ผอ.สายตรงสั่ง รปภ.ไล่แม่ลูกไม่ให้รักษา เหตุเสี่ยงโควิด ทำเด็กไข้สูงหวิดช็อก

โดย pattraporn_a

22 ก.ค. 2564

475 views

เปิดใจแม่อุ้มลูก 2 ขวบ ร้องไห้หน้าโรงพยาบาลเอกชนที่ฉะเชิงเทรา เพราะถูกปฏิเสธรับตัวลูกที่ไข้ขึ้นสูงไว้รักษา ยืนยันเหตุที่เกิดเป็นเรื่องจริง ล่าสุดโรงพยาบาลโทรขอโทษแล้ว


เพจที่นี่แปดริ้ว โพสต์ข้อความ แปดริ้วเราเป็นแบบนี้แล้วหรอ แม่กอดลูกร้องไห้ต่อหน้า รปภ. ที่หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เขตนอกเมืองฝั่ง พล.11 วอนขอให้ช่วยรักษาลูกไข้สูง 39 องศา แต่ถูกปฏิเสธ อ้างว่าแม่ติดโควิด เหตุเกิดช่วง 3 ทุ่มวานนี้ (21 ก.ค.)


ต่อมาเพจโรงพยาบาลที่ถูกระบุแห่งแรก โพสต์ภาพนิ่งกล้องวงจรปิด ที่โรงพยาบาลพร้อมชี้แจงว่า เพจดังโพสต์ข้อความไม่ชัดเจน ทำให้มีประชาชนส่งข้อความมาตำหนิเป็นจำนวนมาก ที่โรงพยาบาลไม่มีผู้ใดมากอดกันร้องไห้หน้าโรงพยาบาล และต่อหน้า รปภ. ไม่ว่าจะวันเวลาใดก็ตาม อยากให้เพจดังกล่าว แก้ไขสิ่งที่ทำให้โรงพยาบาลเสื่อมเสียด้วย


ผู้สื่อข่าวไปพบพ่อเด็ก อายุ 39 ปี เผยว่า เมื่อวานนี้ลูกทั้ง 2 คน ไข้ขึ้นสูง จึงพาไปหาหมอโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ซึ่งได้บอกเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลไปตามความจริงว่า ภรรยาอายุ 40 ปี ทำงานที่โรงงานไทยแอร์โรว์ ที่มีการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 จึงเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ได้ตรวจหาเชื้อแล้วอยู่ระหว่างรอผล คนรับเรื่องจึงโทรศัพท์ไปสอบถาม ผอ.โรงพยาบาล ก่อนจะมาบอกภรรยาว่า ให้กลับบ้าน เพราะคนที่มีความเสี่ยงสูง ให้กักตัว ไม่ให้ออกจากบ้าน และให้แจ้ง อสม.หากมีการเจ็บป่วย จะมีหมอเข้าไปจัดการ


จึงตัดสินใจพาลูกไปโรงพยาบาลบางคล้า แต่ก็กลัวจะถูกปฏิเสธอีก ประกอบกับลูกไข้ลดแล้ว จึงพากลับบ้านแทน ตอนนี้ลูกทั้ง 2 คน ยังมีไข้อยู่ต้องเช็ดตัว แต่ก็ดีขึ้นแล้ว วันนี้ตนได้พาลูกคนโตมาตรวจโควิดที่โรงพยาบาลบางคล้า


ส่วนแม่เด็ก วันนี้ผลตรวจออกแล้ว ติดโควิด 19 ตอนนี้ได้ไปเอกซเรย์ปอด ที่โรงพยาบาลสนาม มหาวิทยาลัยราชภัฏ ตำบลหัวไทร อำเภอบางคล้า ยังไม่ทราบผลว่า อาการอยู่ในระดับได้ ขณะที่สามีและลูกๆ ยังต้องรอผลตรวจ


สำหรับเรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น แม่เด็กยืนยันว่า เหตุการณ์ตามที่เพจโพสต์เป็นเรื่องจริงทุกอย่าง ที่ทางโรงพยาบาลบอกว่า ตรวจกล้องวงจรปิดแล้ว ไม่พบว่ามีคนไปร้องไห้นั้น เพราะตรวจไม่ตรงกับเวลาที่ไป ซึ่งเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลโทรศัพท์มาขอโทษแล้ว พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ และจะส่งยามาให้ลูกของตนด้วย ไม่คิดว่าเรื่องจะบานปลาย ตนไม่ติดใจอะไรแล้ว และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก



สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/LkSUTPgVdMA

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ