สถานการณ์ความไม่สงบในหลายเมืองของแอฟริกาใต้ลุกลามต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีจาค็อบ ซูมา โดนจำคุกแล้วผู้สนับสนุนประท้วงก่อความรุนแรง ก่อนบานปลายเป็นปล้นสะดมทำลายทรัพย์สิน ซึ่งล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็น 72 ศพ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการเหยียบกันเสียชีวิตขณะที่เข้าไปแย่งชิงสิ่งของในห้างร้านที่ถูกปล้นสะดมภ์

โดยภาพนี้เป็นเหตุการณ์ระทึก เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้อาคารห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองเดอร์แบน หลังถูกปล้นสะดมอย่างหนัก และมีผู้ติดอยู่ภายในห้างจำนนมาก จนทำให้ผู้เป็นแม่รายหนึ่งต้องโยนลูกวัย 2 ขวบ ลงมาจากอาคาร ซึ่งโชคดีที่มีคนช่วยรับไว้ทัน ทำให้เด็กคนนี้รอดชีวิตมาได้

ทั้งนี้ กระแสที่ความไม่สงบที่เกิดขึ้นนั้น มาจากที่ อดีตประธานาธิบดีซูมา วัย 79 ปี เริ่มรับโทษจำคุก 15 เดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ตามคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ว่าเขาขัดคำสั่งศาลโดยไม่ยอมมอบหลักฐานแก่คณะกรรมการสอบสวนการคอร์รัปชันที่กล่าวหาว่ามีการทุจริตในช่วงที่เขาดำรงตำแหน่งนาน 9 ปีถึงปี 2561 มูลนิธิของเขากล่าวเมื่อวันอังคารว่า ความรุนแรงจะดำเนินต่อไปจนกว่าซูมาจะได้รับการปล่อยตัว

ศูนย์การค้าและโกดังสินค้าหลายแห่ง ถูกปล้นสะดม และวางเพลิงในหลายเมือง ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดควาซูลู-นาตัล บ้านเกิดของอดีตประธานาธิบดี ซูมา และ เมืองโซวิโต และนครโจฮันเนสเบิร์ก ศูนย์กลางเศรษฐกิจและการเงิน กับจังหวัดเคาเตง ความวุ่นวายยังลามไปอีก 2 จังหวัด คืออึมพูมาลังกา ที่อยู่ทางตะวันออกของเคาเตง และนอร์เทิร์นเคป

จากข้อมูลอย่างเป็นทางการมีผู้ถูกจับกุมแล้ว 1,200 คน แต่สถานการณ์ก็ยังลุกลมต่อเนื่อง ซึ่ง ภาพข่าวการปล้นสะดมในหลายเมืองที่สร้างความช็อกแก่ชาวแอฟริกาใต้จำนวนมาก เผยให้เห็นฝูงชนขโมยสินค้ากันอย่างสบายใจ ทั้งตู้เย็น, ทีวีขนาดใหญ่, เตาอบไมโครเวฟ, สินค้าแฟชัน และลังใส่อาหารและแอลกอฮอล์

โดยล่าสุด นาย ดูดูซาน ซูมา ลูกชายของอดีตประธานาธิบดีซูมา ได้ออกมากระเพื่อมกระแสความวุ่นวายขึ้นอีก โดยบอกว่า ขอให้ประชาชน "ประท้วง และปล้นสะดม" อย่างมีความรับผิดชอบ และเรียกร้องให้ทางการปล่อยตัวพ่อของเขาด้วย