ชาวกรุงปารีส ของฝรั่งเศส ยื่นฟ้องหน่วยงานรัฐที่เพิกเฉยตอนสารตะกั่ว 400 ตัน กระจายทั่วเมือง จากเหตุเพลิงไหม้มหาวิหารน็อทร์-ดาม เมื่อ 2 ปีก่อน ปล่อยให้ประชาชนเสี่ยงสูดดมสัมผัสมลพิษทางอากาศกว่า 3 เดือน

โดยประชาชนในกรุงปารีส ยื่นฟ้องหน่วยงานของรัฐ ซึ่งรวมไปถึงสำนักนายกเทศมนตรี กรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้มหาวิหารน็อทร์-ดาม เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2562 แล้วหลังคาถูกเผาไหม้ ทำให้มีสารตะกั่วปริมาณกว่า 400 ตัน ปนเปื้อนในอากาศแผ่ปกคลุมในรัศมีกว่า 50 กม. ซึ่งประชาชนต้องทนอยู่กับมลพิษทางอากาศโดยที่ทางการไม่ประกาศเตือนภัย หรือมีมาตรการแก้ปัญหาใดๆ ในช่วง 3 เดือนหลังเพลิงไหม้

ทนายความระบุว่า คราวนี้มี 2 ครอบครัวในกรุงปารีสเป็นรายล่าสุดที่ออกมาฟ้องร้องในกรณีนี้ ซึ่งเอกสารฟ้องระบุว่า ทางการประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ปล่อยให้ประชาชนอยู่ในเมืองที่เสี่ยงอันตรายต่อสารตะกั่วที่เสี่ยงก่อให้เกิดมะเร็ง เด็กๆ เสี่ยงสูดดมฝุ่นควันที่ปนเปื้อนสารตะกั่วเข้าไปทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน โดยทางการไม่มีมาตรการรับมือกับความเสี่ยงสารตะกั่วปนเปื้อน แม้จะรับรู้ถึงความรุนแรงของไฟไหม้และรู้ถึงความเสี่ยงต่อมลพิษทางอากาศและการปนเปื้อน

ในเอกสารฟ้องชี้ถึงสถานการณ์ในช่วงหลายเดือนหลังเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งทางการเพิ่งสั่งทำความสะอาดครั้งใหญ่ที่โรงเรียนและสถานที่ต่างๆ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับวิหารน็อทร์-ดาม และสั่งให้เด็กกับหญิงตั้งครรภ์ไปทำการตรวจเลือด แต่กลับปิดบังข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากสารตะกั่ว

นอกจากสำนักงานนายกเทศมนตรีของนางแอนน์ ฮิดัลโก้ แห่งพรรคสังคมนิยมแล้ว ยังยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจ กระทรวงวัฒนธรรมและสำนักงานการแพทย์ท้องถิ่นด้วย