โรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ ซึ่งถูกตั้งเป็นศูนย์อพยพ สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โรงงาน หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เตรียมพร้อม เป็นที่พักค้างให้กับประชาชน

โดยศูนย์อพยพแห่งนี้ เป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่าง ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ และองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต.บางพลีใหญ่ โดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะตรวจสอบอาการเจ็บป่วยเบื้องต้น เช่น ระบบการหายใจ และแผลไฟไหม้ตามร่างกาย เป็นต้น พร้อมเตรียมรถกู้ชีพ รถฉุกเฉิน เตรียมส่งต่อโรงพยาบาลใกล้เคียงได้ แต่เบื้องต้นยังไม่พบผู้เจ็บป่วยรุนแรง

อบต.ได้จัดเตรียมอาหารน้ำดื่ม พร้อมอำนวยความสะดวก มีบางรายประกาศตามหาคนในครอบครัวที่สูญหาย จึงได้ตรวจสอบในพื้นที่ พร้อมทั้งประสานงานไปยังศูนย์อพยพอื่น ซึ่งยังมีศูนย์อพยพที่อบต.บางพลีใหญ่, ศูนย์อพยพวัดสลุด อ. บางพลีใหญ่, ศูนย์อพยพโรงเรียนวัดบางพลีใหญ่กลาง และศูนย์อพยพวัดบางพลีใหญ่ใน ที่เปิดเพิ่มเติม

ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมปริญญานุสรณ์ เปิดเผยว่า มีห้องเรียนที่พร้อมให้พักค้าง ระบบสาธารณูปโภคอำนวยความสะดวก ปกติ 30 ห้อง พักได้ห้องละ 20 คน รวม 600 คน แต่จากการหารือกับสาธารณสุขพื้นที่เพราะต้องคำนึงเรื่องการเว้นระยะห่างป้องกันโควิด กำหนดให้พักได้ 1 ห้อง สำหรับ 1 ครอบครัว และหากเป็นพนักงานที่มาจากโรงงานเดียวกัน โดยมีผู้นำอพยพมาเป็นระบบ ให้พักได้ห้องละ 20 คน ล่าสุดมีผู้แจ้งความประสงค์จะขอพักครั้งแล้วประมาณ 120 คน

ด้าน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ และอธิบดีกรมโรงงาน เปิดเผยว่า โรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด เป็นโรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก มีกำลังการผลิต 80,000 ตันต่อปี และได้สั่งการให้กรมโรงงานอุตมาหกรรมส่งหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าไปในพื้นที่ตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุ พร้อมกับส่งรถตรวจสภาพอากาศเข้าไปในพื้นที่แล้ว เร่งแก้ไขปัญหาสภาพอากาศ ซึ่งกรมโรงงานอุตสาหกรรม, กรมควบคุมมลพิษ และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยรอบ พร้อมตรวจวัดคุณภาพอากาศและปริมาณสารเคมีที่ก่อให้เกิดอันตราย

ส่วนโรงงานโดยรอบที่เกิดเหตุ รัศมี 5 กิโลเมตร พบว่ามีทั้งสิ้น 301 โรงงาน ได้สั่งให้อพยพคนออกทั้งหมด และระงับการผลิตไปก่อน นอกจากนี้ยังได้ตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มูลนิธิร่วมกตัญญูในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการในเบื้องต้นแล้ว

ด้าน นายประกอบ วิวิธจินดา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า เบื้องต้นกรมโรงงานอุตสาหกรรมได้เคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่ไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยให้ห่างจากพื้นที่ที่สามารถติดไฟได้ พร้อมกับล้างสารเคมีที่เหลือด้วยน้ำปริมาณมากๆ ซึ่งสารสไตรีนโมโนเมอร์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นผลิตโฟมก็มีคุณสมบัติติดไฟได้ง่าย ส่วนสารพอลิสไตรีนนั้น เมื่อถูกความร้อนสูง จะให้สาร 2 ชนิดคือ สไตรีน และเบนซีน โดยเบนซีนเป็นสารพิษอันตราย มีความเป็นพิษสูงและเป็นสารก่อมะเร็ง โดยอาการของผู้ที่ได้รับเบนซีนเมื่อหายใจเข้าไปในระดับสูงและเป็นเวลานาน คือในระยะแรกๆ จะเกิดอาการซึม วิงเวียน คลื่นไส้ หมดสติ ใจสั่น เมื่อสูดดมเป็นเวลานานจะทำให้เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดได้

เหตุไฟไหม้ครั้งนี้ กรมโรงงานอุตสาหกรรมคาดว่ามูลค่าสินทรัพย์ในกองเพลิงเกือบ 700 ล้านบาท จากความเสียหายของสารเคมีกว่า 10 ชนิด และยังต้องประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากยังคุมเพลิงไม่ได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลังหวั่นระเบิดซ้ำ

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/cl7gEt3yjk0