3 หน่วยงาน สธ. ระบุโควิดถึงจุดน่าห่วง เตียงตึง ยันระบบสาธารณสุขยังไม่ล่ม

สังคม

3 หน่วยงาน สธ. ระบุโควิดถึงจุดน่าห่วง เตียงตึง ยันระบบสาธารณสุขยังไม่ล่ม

โดย passamon_a

4 ก.ค. 2564

25 views

วันที่ 3 ก.ค.64 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ได้แถลงข่าวนัดพิเศษ โดยมี 3 หน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงถึงสถานการณ์โควิด-19 โดย นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยอมรับว่า ขณะนี้สถานการณ์น่าเป็นห่วง เนื่องจากการแพร่ระบาดในจุดที่หนาแน่นเข้าไปถึงชุมชน-ครอบครัว อีกทั้งยังพบเชื้อสายพันธ์เดลตา ที่แพร่กระจายได้รวดเร็ว ทำให้ผู้ติดเชื้อพุ่งแตะ 6 พันคน เป็นวันที่ 2


จุดใหญ่ที่จะเพิ่มความเข้มข้น คือ ในชุมชนและครัวเรือน ซึ่งติดเชื้อในกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว จึงต้องป้องกันในครอบครัว เร่งการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันถ้าทำได้ก็จะเห็นผลในเดือนต่อไป


ขณะที่ นพ.สมศักดิ์ อัครศิลป์ อธิบดีกรมแพทย์ ยอมรับว่าสถานการณ์เตียงผู้ป่วยโควิดค่อนข้างตึง และมีผู้ป่วยที่ตกค้างหลักพันคน เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งแนวทาง home isolation หรือการรักษาที่บ้าน เลือกใช้บางพื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานคร ที่พบคนป่วย 2 พันคนต่อวัน และปริมณฑลบางจังหวัดที่แพร่ระบาดหนัก เบื้องต้นก็พบปัญหาว่า home isolation อาจใช้ได้กับบุคคลที่สามารถแยกตัวภายในบ้านได้ ซึ่งจะใช้แนวทาง Community isolation คือการนำคนป่วยมาอยู่บ้านพักคอย


พร้อมยืนยันระบบสาธารณสุขยังไม่ล่มสลาย เพราะโรงพยาบาลสามารถให้การรักษาผู้ป่วยได้ และได้ปรับระบบการดูแลในโรงพยาบาล มาเป็น home isolation และ Community isolation


ด้าน นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม ชี้แจงกรณีการนำเข้าวัคซีนโมเดอร์นา ที่ถูกตั้งข้อสังเกตเรื่องการจัดหาล่าช้า ว่า องค์การเภสัช มีการติดต่อกับบริษัทโมเดอร์นา โดยตรงตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 โดยบริษัทตอบกลับวันที่ 28 กุมภาพันธ์ว่า วัคซีนมีจำกัด สามารถส่งได้เร็วสุดไตรมาสแรกของปี 2565 และต้นเดือนเมษายน บริษัทตอบกลับเรื่องผู้แทนนำเข้าว่า มีบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัด เป็นผู้แทนบริษัทเดียว


จากนั้นวันที่ 21 เมษายน มีการตกลงกันว่าวัคซีนโมเดอร์นา จะเป็นวัคซีนทางเลือก ต้องจัดซื้อผ่านตัวแทนภาครัฐเท่านั้น ซึ่ง อภ.ได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนดำเนินการสั่งซื้อให้เอกชน กว่า 300 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งมีความต้องการวัคซีนมากถึง 9 ล้านโดส ในขณะที่การสั่งซื้อในปีนี้ได้เพียง 4 ล้านโดส และในปีหน้าอีก 1 ล้านโดส รวมเป็น 5 ล้านโดส


คุณอาจสนใจ