ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินกรณีโรคโควิด -19 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน ออกสอบสวนโรคเก็บตัวอย่างผู้สัมผัสผู้ป่วยถึงกับน้ำตาซึม ‘น้องกีตาร์’ เด็กหญิงซึ่งเป็นผู้ป่วยอายุ 9 ขวบ ที่อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ร้องไห้สะอื้นด้วยความกลัวที่จะต้องจากครอบครัวไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน พยาบาลต้องชุด PPE นั่งไปด้วยเพื่อช่วยปลอบน้องระหว่างเดินทางไปรักษาตัว

พ่อพิการแขนขวาร้องไห้ไปส่งน้องขึ้นรถ พร้อมบอกกับน้องว่าพ่อจะตามไปหาลูกนะ ผู้เป็นแม่อุ้มลูกสาววัย 2 ขวบ ยืนร้องไห้อยู่ห่าง ๆ ด้วยความเป็นห่วงลูก และฝากกับทีมเจ้าหน้าที่ “ให้ช่วยดูแลลูกสาวด้วยนะ” ระหว่างน้องเดินขึ้นรถ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขปรบมือให้กำลังใจ บอกว่า “กีต้าร์สู้ ๆ นะลูก น้องกีต้าร์คนเก่ง ไปกับคุณหมอไม่เป็นอะไรลูก เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว ไม่ต้องร้องไห้นะ”

เจ้าหน้าที่ซึ่งลงพื้นที่ไปสอบสวนโรคเผยว่า เป็นภาพที่สะเทือนอารมณ์จริง ๆ เจ้าหน้าที่หลายคนน้ำตาคลอเบ้า บางคนถึงกับร้องไห้ตาม ก็ได้แค่บอกคุณพ่อกับแม่ของน้องว่า “สามารถโทรศัพท์คุยกับลูกได้ตลอดเวลาเลยนะ” ทีมแพทย์และพยาบาลจะดูแลน้องจนหายและได้กลับมาอยู่กับครอบครัวอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังแม่ของเด็กวัย 9 ขวบ คนดังกล่าว เผยทั้งน้ำตาจากหัวอกคนเป็นแม่สงสารลูกติดโควิด ระบุว่า สาเหตุที่ติดเชื้อเริ่มจาก ลูกสาวและลูกเขยของ 2 ตายายคู่หนึ่ง ที่ อ.ท่าวังผา พาเพื่อนมาเที่ยว 1 คน ซึ่งเดินทางมาจาก จ.ฉะเชิงเทรา ไม่ยอมกักตัว มาคลุกคลีกับคนในครอบครัว

จากนั้นลูกสาวกับลูกเขยของ 2 ตายาย พร้อมเพื่อนเดินทางกลับฉะเชิงเทรา ผ่านไป 3 วัน คุณตา อายุ 62 เริ่มมีอาการไม่สบายครั่นเนื้อครั่นตัว เจ็บคอเหมือนจะเป็นไข้ คุณตาไปตรวจเชื้อที่คลินิกทางคลินิกบอกให้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาล แต่คุณตาไม่ยอมไป ต่อมาลูกสาวของคุณตาโทรมาบอกว่าเพื่อนที่มาด้วยติดโควิด

คุณตารายนี้ไปตรวจที่คลินิกอีกครั้ง แต่คลินิกโทรแจ้งโรงพยาบาลมารับตรวจหาเชื้อทั้งคุณตาและคุณยาย ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบอกให้ตายายกักตัว รวมถึงน้องออมหลานสาววัย 9 กับหลายชายวัย 4 ขวบ ของตายายด้วย ห้ามให้ไปโรงเรียน แต่ยังให้หลานไปโรงเรียนตามปกติและพาไปตลาด ให้ไปเรียนพิเศษ ทั้งที่หลานเป็นกลุ่มเสี่ยง

ซึ่งน้องออม วัย 9 ขวบ หลานตายายคู่นี้ เรียนอยู่ชั้น ป.4/1 ห้องเดียวกันกับน้องกีต้าร์ ลูกสาวของตน นั่งใกล้กัน กระทั่งต่อมาทราบว่าผลตรวจตายายคู่นั้นและหลาน ๆ เป็นบวก จากนั้นวันอาทิตย์ ที่ 27 มิ.ย. ทางโรงเรียนให้เด็กในชั้นที่หลานของ 2 ตายาย เรียนอยู่ตรวจหาเชื้อโควิดทันที ผลตรวจออก 4 ทุ่ม วันที่ 28 มิ.ย. หมอโทรหมาหาตนบอกว่าน้องกีต้าร์ ลูกสาวติดโควิด จากเพื่อน

แม่ของน้องกีต้าร์ เล่าว่า ตนทำใจไม่ได้ สงสารลูก พอทราบผลตรวจตนยังไม่ได้บอกลูกว่าเขาติดโควิดเพราะน้องนอนหลับแล้ว จึงบอกให้ลูกทราบตอนเช้าก่อนที่รถพยาบาลจะมารับตัวไปรักษา ทีแรกหมอจะมารับตอนกลางคืน ตนจึงบอกว่าน้องจะโวยวายเขาไม่ยอมไปแน่ ๆ น้องเป็นคนขี้กลัว เช้าวันรุ่งขึ้นตนพยายามกลั่นใจจะบอกเรื่องนี้ให้ลูกทราบ

น้องกีต้าร์ ถามว่า “แม่ทำไมพ่อต้องไปนอนตรงนั้น” เนื่องจากต้องนอนแยกกัน ตนบอกลูกกลับไปว่าให้ไปอาบน้ำล้างหน้าก่อนเดี๋ยวแม่จะบอก จากนั้นกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้า ลูกสาวเห็นตนเก็บกระเป๋าถามว่า “แม่จะไปไหน” ตนตอบกลับว่า “แม่ไม่ได้ไปไหน แต่หนูต้องไปอยู่กับคุณหมอก่อนนะลูกเพราะหนูติดเชื้อโควิดจากเพื่อน” ลูกสาวร้องไห้บอกว่า “หนูไม่ไป หนูจะอยู่กับพ่อกับแม่”

ตนเองทำใจไม่ได้ เห็นลูกร้องไห้ก็ร้องตาม พ่อน้องกีต้าร์ ก็ร้องไห้เดินออกนอกบ้านเพราะทำใจไม่ได้ สงสารลูก เขาไม่รู้เรื่องอิโหน่อิเหน่อะไรด้วย ไปเรียนตามปกติกลับต้องติดเชื้อมา ขณะที่ทางสาธารณสุขได้มาตรวจหาเชื้อคนที่ใกล้ชิดกับน้องกีต้าร์ จำนวน 13 คน ผลเป็นลบทั้งหมดแต่ยังต้องกักตัว วันที่ 7 ก.ค. เจ้าหน้าที่จะมาตรวจซ้ำอีกครั้ง ส่วนโรงเรียนที่น้องเรียนอยู่ปิดยังไม่มีกำหนดเปิด ต้องรอผลตรวจของนักเรียนทั้งหมดที่ตรวจเมื่อวันที่ 29-30 ออกครบทุกคนก่อน

ด้านสาธารณสุขอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน เผยว่า ขณะนี้พบเด็กนักเรียนชั้นป 4/1 โรงเรียนบ้านท่าวังผาประชารัฐวิทยาคาร ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 2 คน ขอให้นักเรียนทั้งหมดได้กักตัวเองที่บ้านและเฝ้าสังเกตอาการ หากมีข้อสงสัยให้ติดต่อสถานบริการสาธารณสุขใกล้บ้าน

และขอให้ผู้ปกครองนำนักเรียนไปตรวจหาเชื้อ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิดให้นักเรียนชั้นอนุบาล ชั้น ป. 2/1 ป.3/1 ป.5/1 และป. 6/1 ทั้งหมดแล้ว ส่วนนักเรียนชั้นอื่น ๆ ที่เหลือได้ดำเนินการตรวจไปเมื่อวานนี้ (30 มิ.ย.)