วันที่ 26 มิ.ย. 2564 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย ดร.พรรณสิริ กุลนาถสิริ ส.ส.สุโขทัย นายสุชาติ ทีคะสุข รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย นายมนู พุกประเสริฐ นายกอบจ.สุโขทัย และนายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรง ได้เดินทางไปยังบ้านของคุณยาย 4 พี่น้อง คือนางโปรย อนุเคราะห์ อายุ 94 ปี น.ส.ศรีนวล ทิมแย้ม อายุ 82 ปี น.ส.แฉล้ม ทิมแย้ม อายุ 80 ปี และนางตะล่อม ทิมแย้ม อายุ 77 ปี เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ

หลังจากที่บ้านของยายทั้ง 4 คนอาศัยอยู่มาตั้งแต่เล็ก ต้องถูกขายทอดตลาด เนื่องจากหลานชายได้นำที่ดินไปค้ำประกันเงินกู้ เพื่อไปทำงานประเทศไต้หวัน ไม่สามารถหาเงินมาชำระคืน และมีการขายทอดตลาดไปในราคา 355,000 บาท โดยเจ้าหนี้เป็นผู้ซื้อคืนตามที่เป็นข่าวก่อนหน้าไปแล้วนั้น

ล่าสุดทางศาลจังหวัดสุโขทัย ได้มีเมตตาให้คุณยายทั้ง 4 รวมทั้งลูก คือ นายลวง อนุเคราะห์ ซึ่งเป็นลูกชายของยายโปรย ได้อยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวต่ออีก 30 วัน และจะครบกำหนดเวลาในวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ซึ่งจะต้องย้ายออกจากบ้านภายในเวลา 09.00 น.

ซึ่งต่อมา ทางนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้เป็นตัวคนกลางเข้าไปพูดคุยกับเจ้าของที่ดินรายใหม่ เพื่อขอซื้อที่ดินดังกล่าวคืนให้กับคุณยายทั้ง 4 โดยได้เดินทางไปพูดคุยก่อนหน้าที่จะเดินทางมาเยี่ยมคุณยายทั้ง 4 คน

หลังเข้าไปพบเจ้าทรัพย์ที่บ้านส่วนตัว และพูดคุยกันอยู่เกือบชั่วโมง แต่เจ้าทรัพย์ยังคงไม่พร้อมจะขายคืนบ้านไม้ 3 หลัง พร้อมที่ดิน 3 งาน 97 ตารางวา ซึ่งเป็นบ้านเรือนไม้ขนาดใหญ่ ใต้ถุนสูง ท่ามกลางความหวังของคุณยายทั้ง 4 ที่นั่งเฝ้าคอยว่าจะได้อยู่บ้านของตนเองต่อจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ

ซึ่งหลังจากเยี่ยมให้กำลังใจคุณยายทั้ง 4 แล้ว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยคณะทำงานได้มีการพูดคุยถึงปัญหาดังกล่าว ถึงแนวทางในการช่วยเหลือ ซึ่งเบื้องต้น น่าจะมีการเข้าไปพูดคุยเจรจากับทางเจ้าของทรัพย์รายใหม่กันอีกครั้ง

ล่าสุดนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยจนท.ส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นเตรียมซื้อที่ดิน 2 งาน สร้างบ้านชั้นเดียวยกพื้นปูน จำนวน 2 หลัง เพื่อให้อยู่ 2หลังในลักษณะเดิม และให้เช่าบ้านระแวกใกล้เคียงอยู่ก่อนที่จะสร้างบ้านเสร็จ และขนย้ายข้าวของออกก่อนวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ตามที่ได้ขอขยายเวลาอยู่อาศัยไว้

ส่วนยอดเงินบริจาคขณะนี้มียอดที่ชาวไทยร่วมกันบริจาคหวังใช้เงินจำนวนนี้ซื้อบ้านยายคืน รวม 1,750,525 บาท นายปรีชา สุทนต์ นายอำเภอศรีสำโรงได้ตั้งคณะกรรมการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ในการบริหารจัดการเงินก่อนนี้

โดยหลังจากสร้างบ้านเสร็จ จะจัดสรรให้ยายทั้ง 4 คน เป็นรายเดือน โดยตั้งเป้าหมายไว้ให้มีเงินใช้ทุกเดือนถึงอายุ 110 ปี และจัดสรรส่วนหนึ่งเป็นสวัสดิการกองกลางของครัวเรือานที่จะสร้างให้ใหม่จะไม่ทันกำหนดระยะเวลา ทำให้ต้องย้ายไปอยู่บ้านเช่าที่ได้เช่าไว้ก่อนหน้านี้เป็นการชั่วคราว

ซึ่งหลังจากที่คุณยายทั้ง 4 ทราบเรื่องการขอซื้อบ้าน ที่ดินคืนว่าต้องมีการเจรจาใหม่ต่างรู้สึกเสียใจโดยยายตะล่อม ทิมแย้ม น้องสาวคนเล็กกล่าวด้วยน้ำตา ว่าตนเองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ซึ่งอยากได้บ้านหลังเดิมแต่ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาช่วยเหลือ

เช่นเดียวกับ น.ส.แฉล้ม ทิมแย้ม พี่สาวคนที่ 3 กล่าวว่ารู้สึกเสียใจมากและทำใจไม่ได้หากต้องย้ายออกจากบ้านหลังนี้ และไปอยู่ที่ใหม่ น.ส.ศรีนวล ทิมแย้ม พี่สาวคนที่ 2 หลังจากทราบข่าวต่างไม่พูดจาอะไรได้แต่ร้องไห้ด้วยความเสียใจ และด้วยสุขภาพที่ไม่แข็งแรงได้เป็นลมล้มพับจนจนท.อสม.ต้องเข้ามาดู ส่วนนางโปรย อนุเคราะห์ ซึ่งเป็นพี่สาวคนโตได้แต่นั่งเสียใจ และกล่าวไม่อยากไปอยู่ที่ไหนเพราะอยู่ที่บ้านนี้มาตั้งแต่เกิดจนตอนนี้อายุ 94 ปีแล้ว