ส่วนกรณีที่มีผู้หญิงคนหนึ่ง แค้นที่ถูกสามีบอกเลิก 3 เดือนแล้ว ได้บุกเข้ามาภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง แล้วเผารถจักรยานยนต์สามีตัวเอง และลามไปที่รถคนอื่นด้วย ล่าสุดตำรวจเตรียมออกหมายจับแล้ว

โดยเรื่องนี้ เพจ เจ๊ม้อยv plus ได้โพสข้อความพร้อมคลิปวีดีโอ ว่า #เผารถผัวเก่า ที่เลิกกันไปเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว ถึงจะ มีเรื่องที่เคืองใจระหว่างสามีเก่า ก็ไม่ควรเข้ามาในบริเวณสถานศึกษาแล้วทำเช่นนี้ เอาน้ำมันราดแล้วจุดไฟ บุญยังมีไม่โดนเผาไปด้วย ไม่งั้นคงเป็นข่าวหน้าหนึ่งติดต่อ 3 วัน 7 วันแน่ โรงเรียนสาธิต มศว. ฝ่ายประถม

โดยคลิปดังกล่าวเห็นว่ามีผู้หญิงสวมชุดเสื้อลายขาวดำ สะพานกระเป๋าสีดำด้านหลัง และมีถุงผ้าสองใบ สีเขียวและสีแดง โดยผู้หญิงคนดังกล่าวได้หยิบน้ำมันเชื้อเพลิงออกจากถุงสีเขียว และเปิดฝาราดไปที่รถ จักรยานยนต์ ฮอนด้า PCX สีขาว แล้วจุดไฟเผา ทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว หญิงคนดังกล่าวเกือบจะถูกไฟไหม้แต่ก็รีบวิ่งหลบหนีออกมาขึ้นรถแท็กซี่สีชมพูที่จอดรออยู่ด้านหน้าได้ทัน

ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ลงพื้นที่ไปยังผู้อำนวยการโรงเรียน มศว. ประสานมิตร ฝ่ายประถม เพื่อสอบถามข้อมูลพบว่า วันนี้ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกฝ่ายเข้ามาเพื่อพูดคุย หลังปล่อยให้ผู้หญิงดังกล่าวเข้ามาก่อเหตุ

ด้าน รปภ.ของโรงเรียน บอกว่า ปกติแล้วในช่วงสถานการโควิด เด็กนักเรียนเรียนหนังสือออนไลน์อยู่บ้าน มีอาจารย์และบุคลากรบางส่วน ที่เข้ามาทำงานภายในโรงเรียนเท่านั้น และในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเป็นเจ้าหน้าที่ ที่พึ่งเข้ามาปฎิบัติหน้าที่ได้เพียง 2 เดือน โดยผู้หญิงคนดังกล่าวนั่งรถแท็กซี่ สีชมพู เข้ามาและทำทีแจ้งว่าจะนำสิ่งของมาไว้บนรถเพื่อน เจ้าหน้าที่ได้ปล่อยให้ผู้หญิงคนดังกล่าวขึ้นไป โดยเดินขึ้นจากทางลาดขึ้นไปบนลาดจอดรถชั้น 3 แต่ตามหลักของโรงเรียนมีกฎข้อปฎิบัติการเข้าออกของบุคคลภายนอกอยู่ โดยท่านใดที่ที่เข้ามาติดต่อบุคลาการภายในโรงเรียนจะต้องมีบัตรผ่านเข้า-ออก แลกที่ รปภ. ประตู 1 ประตู 2 และประตู 3 ทุกครั้ง

โดยจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถเสียหาย 6 คัน ผนังอาคารฝ้าเพดานได้รับความเสียหายด้วย

ด้านพันตำรวจโท ศุภชัย หาญตำหล้า รองผู้กำกับสอบสวน สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า เบื้องตนได้ประสานเรียกสามีของผู้ก่อเหตุ และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับหญิงรายดังกล่าว